นายกวิน กาญจนพาสน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดปี 61/62 สิ้นสุด มี.ค.62 ของบริษัทและบริษัทย่อยมีกำไร 2.87 พันล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีกำไร 4.42 พันล้านบาท ปัจจัยหลักมาจากการลดลงของกำไรจากการปรับโครงสร้างการถือหุ้นในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผ่านการโอนกิจการทั้งหมด (EBT) ของอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ของบริษัทฯ ไปยัง บมจ. ยูซิตี้ (U) ที่เคยบันทึกไปแล้วในปีก่อน
ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยและภาษี (Operating EBITDA) อยู่ที่ 6,106 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.3% หรือ 2,017 ล้านบาท จากปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของธุรกิจระบบขนส่งมวลชนและธุรกิจสื่อโฆษณา
"ผลการดำเนินงานในปีนี้เกินกว่าเป้าที่บริษัทตั้งไว้ โดยเราคาดว่ากำไรสุทธิจากรายการที่เกิดขึ้นเป็นประจำเฉลี่ย 5 ปีข้างหน้าจะเติบโต 25% เรายังเชื่อมั่นว่าจะเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปีหน้ากำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยและภาษี (Operating EBITDA) จะเติบโต 25%"นายกวิน กล่าว
สำหรับธุรกิจสื่อโฆษณา ยังคงโชว์ผลประกอบการที่โดดเด่น โดย บมจ.วีจีไอ โกลบอล มีเดีย (VGI) สามารถสร้างสถิติรายได้ใหม่สูงสุดที่ 5,158 ล้านบาท เติบโตโดดเด่นถึง 31% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ จำนวน 1,101 ล้านบาท โตขึ้น 30.1% จากปีก่อน นอกจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งตามธรรมชาติในทุกหน่วยธุรกิจแล้ว VGI ยังขยายการลงทุนสุทธิกว่า 11,000 ล้านบาท จากการเข้าลงทุน 18.6% ในบริษัทผู้ให้บริการสื่อโฆษณานอกบ้านชั้นนำของประเทศไทยอย่าง บมจ. แพลนบี มีเดีย (PLANB) รวมถึงการเข้าลงทุน 23.0% ในบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำที่ประกอบธุรกิจโลจิสติกส์ครบวงจร
"ในปีนี้ บริษัทฯ จะมุ่งไปสู่การเป็นแนวหน้าในหลายๆ ด้าน รวมทั้งจะใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพในการมองหาโอกาสใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นในระบบขนส่งมวลชน และโครงการโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ โดยพันธกิจหลักของเราคือการเป็นผู้นำและตอบโจทย์การยกระดับคุณภาพชีวิตของคนเมืองในกรุงเทพมหานครอย่างยั่งยืน และในขณะเดียวกัน เรายังคงมองหาโอกาสในการเพิ่มมูลค่าและให้ผลตอบแทนที่ยั่งยืนแก่ผู้ถือหุ้นของเราอีกด้วย" นายกวิน กล่าว
นายดาเนียล รอสส์ ผู้อำนวยการใหญ่สายการลงทุน เปิดเผยว่า มูลค่าสินทรัพย์รวมของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562 เติบโตขึ้น 36% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา นับเป็นบริษัทที่มีการขยายตัวของมูลค่าสินทรัพย์มากสุดเป็นอันดับ 2 ในดัชนี SET 50" โดยการเพิ่มขึ้นของมูลค่าสินทรัพย์นี้เป็นผลมาจากการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง รวมถึงส่วนต่อขยายสายสีเขียว ซึ่งจากโครงการดังกล่าวจะทำให้ระบบรถไฟฟ้า BTS ของเราขยายตัวเพิ่มขึ้น 3 เท่าในปี 63
ทั้งนี้ คณะกรรมการของบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายประจำปี 61/62 ไม่เกิน 3,292.9 ล้านบาท หรือ 0.25 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินปันผลจำนวนไม่เกิน 5,306.2 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีมติอนุมัติให้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิชุดใหม่ (BTS-W5) จำนวนไม่เกิน 1,319.6 พันล้านหน่วย จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตราจัดสรรที่ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ 10 หุ้นสำมัญเดิม ที่ราคาการใช้สิทธิที่ 14.0 บาทต่อหุ้น ซึ่งเงินที่จะได้รับจากการออกใบสำคัญแสดงสิทธิ BTS-W5 นี้จะนำมาใช้ในโครงการระบบขนส่งมวลชนใหม่ๆ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากเป้าการเติบโต 5 ปีที่เราตั้งไว้อีกด้วย ทั้งนี้ เงินปันผลและ BTS-W5 จะเสนอให้ผู้ถือหุ้นพิจารณาในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีวันที่ 22 ก.ค. นี้