บลจ.ทหารไทย ตั้งเป้า AUM ปี 51-53 เพิ่มปีละ 3 หมื่นลบ.เน้นออก FIF

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 6, 2008 11:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นางโชติกา สวนานนท์  กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย กล่าวว่า ในระยะ 3 ปีต่อไป (51-53) บริษัทตั้งเป้าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร(AUM) เพิ่มขึ้นปีละประมาณ 3 หมื่นล้านบาท จากสิ้นปี 50 ที่อยู่ที่ 1.39 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นอัตราเดียวกันกับการเติบโตของ AUM ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา(48-50) ที่ปีละประมาณ 3 หมื่นล้านบาท
พร้อมทั้ง ปรับวิสัยทัศน์จากการเป็น"THE LEADER"มาเป็น"THE BEST" โดยเน้นการเป็นบลจ.ที่ดีที่สุด เพื่อให้การดำเนินธุรกิจสามารถเติบโตอย่างยั่งยืน ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น และเปลี่ยนวิธีการบริหารกองทุนใหม่
แนวทางการดำเนินงานจะปรับปรุงระบบการทำงานภายในทั้งหมดเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การเพิ่มผู้จัดการกองทุนเพื่อสอดรับกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อสร้างผลตอบแทนมากขึ้น การเพิ่มบุคลาการด้าน IT ส่วนงานลูกค้าสัมพันธ์ เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าได้สะดวกรวดเร็ว อีกทั้งจะมีการคิดค้นบริการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องทุกไตรมาส และบริการตามข้อเสนอแนะลูกค้าทุกๆ เดือน
นางโชติกา กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนจัดตั้งกองทุนที่จะออกไปลงทุนในต่างประเทศ(FIF) โดยคาดว่าจะออกกองทุน FIF หุ้นและตราสารหนี้เพื่อลงทุนในประเทศเกาหลีก่อน และยังอยู่ระหว่างการศึกษาการออก FIF ในอินเดียและบราซิลด้วย
"คาดว่าจะออกตราสารหนี้ได้ก่อน มี.ค.นี้ ส่วนกองทุนหุ้นอาจจะเป็นประมาณ มี.ค.โดยมองว่าตราสารหนี้ยังน่าลงทุนที่สุด เพราะหุ้นยังผันผวน และยังสนใจกองทุนอสังหาฯที่สามารถเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ โดยกองทุนเป็นผู้ว่าจ้างมืออาชีพมาบริหารสินทรัพย์แทน" นางโชติกา กล่าว
ส่วนการเพิ่มทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ซีพีเอ็น รีเทล โกรท ฟันด์ (CPNRF) ขณะนี้ยังติดที่มาตราการกันสำรอง 30% ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แม้ว่าจะได้ผ่อนคลายมาตรารให้กับผู้ถือหุ้นเดิมแล้วก็ตาม แต่ยังเป็นปัญหากับผู้ถือหุ้นใหม่ ซึ่งยังคงต้องรอดูนโยบายรัฐบาลว่าจะยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% หรือไม่ หากยกเลิกก็สามารถดำเนินการได้ทันที
นางโชติกา กล่าวว่า สำหรับกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ลักซ์ชัวรี่ คาดว่าจะสามารถขาย IPO ได้กลางถึงสิ้นมี.ค.นี้ เลื่อนจากปลายม.ค. หลังติดปัญหาเรื่องการออกโฉนดที่ดิน แต่ขณะนี้ทางจังหวัดได้ยืนยันมาแล้วว่าสามารถออกโฉนดได้แน่นอน ส่วนมูลค่าโครงการคงเหมือนเดิมที่ราว 1.9 พันล้านบาท
นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาการเข้าลงทุนกองทุนพลังงาน แต่มองว่าเป็นเรื่องค่อนข้างยาก เพราะห่วงเรื่องการ control ราคาสินค้าในกลุ่มพลังงาน เพราะขึ้นกับกลุ่มโอเปคเพียงกลุ่มเดียว อีกทั้งสภาพคล่องยังไม่มาก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ