"มาริษ"เสนอกองทุนไทยใช้โอกาสช่วงซับไพร์มเข้าลงทุนอสังหาฯในสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 6, 2008 12:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บลจ. ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) ในฐานะนายกสมาคมจัดการลงทุนเปิดเผยว่า ปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะทำให้การลงทุนในต่างประเทศในปีนี้ยากลำบากมากขึ้น ซึ่งบลจ.ต้องพยายามหาช่องทางการลงทุนใหม่ๆ มากขึ้นเพื่อทดแทนกับความผันผวน แต่อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่าสินทรัพย์รวมของกองทุนทั้งระบบยังโตใกล้เคียงปีก่อนที่คาดว่าจะมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 25% จากปีที่แล้วอยู่ในระดับ 27%
อย่างไรก็ตาม การที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)อนุญาตให้กองทุนอสังหาริมทรัพย์ของไทยสามารถไปลงทุนกองทุนอสังหาฯ ต่างประเทศได้ 100% น่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่กองทุนอสังหาฯ ไทยจะถือโอกาสเข้าไปซื้ออสังหาฯ ของอเมริกาที่ปัจจุบันมีการประกาศขายเป็นจำนวนมาก
"ปีนี้อาจจะเห็นกองทุนอสังหาฯ ระดมทุนในไทยเพื่อไปซื้ออสังหาฯในสหรัฐมากขึ้น...การซื้อที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง อสังหาฯ ควรซื้อในช่วงที่ราคาตกต่ำ เพราะเป็นการลงทุนระยะยาว 10-20 ปี ปัจจุบันพบว่าผลตอบแทนเฉลี่ยยังสูงประมาณ 20% อยู่ ดังนั้น เราควรมองวิกฤตที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นโอกาสของกองทุนอสังหาฯ เพราะการซื้อสินทรัพย์ในเอเชียตอนนี้ทำไม่ได้ เพราะเศรษฐกิจโต ราคาอสังหาฯก็สูง"นายมาริษ กล่าว
ขณะที่การลงทุนในต่างประเทศที่เป็นกองทุนระยะสั้น ตราสารหนี้ระยะสั้น จะทำได้ยากลำบากขึ้นเพราะส่วนต่างของดอกเบี้ยแคบลงทำให้ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยลดลงด้วย เช่น กรณีปีที่แล้วที่มีการระดมทุน FIF ไปลงทุนตราสารหนี้ในยูโร ประเภท 3 เดือน 6 เดือน ผลตอบแทน 3-3.5% แต่ปีนี้อาจจะได้แค่ 3% เพราะฉะนั้นจะต้องเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
สำหรับกรณีที่ธนาคารพาณิชย์บางแห่งเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากเพื่อระดมเงินฝาก นายมาริษ กล่าวว่า เชื่อว่าจะไม่เป็นการแย่งเงินออกจากระบบกองทุนรวม เพราะว่า ตอนนี้เงินฝากในระบบธนาคารมี 6-7 ล้านล้านบาทถือว่าสูงมาก ขณะที่ของกองทุนมีไม่ถึง 2 ล้านล้านบาท ซึ่งมองว่ายังมีส่วนแบ่งได้อีกมาก ตราบใดที่บลจ.หาทางเลือกให้ผู้ลงทุนเกี่ยวกับผลิตที่ให้ผลตอบแทนสูง ขณะที่ความเสี่ยงอยู่ในระดับที่รับได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ