CGH เชื่อทุกบ.ในเครือหนุนผลงานปีนี้โต,ดัน PDI ซื้อกิจการหมื่นลบ.ในต่างประเทศ.,รุกงาน IB ขยายเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลก

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 31, 2019 13:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทอมมี่ เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (CGH) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานบริษัทปีนี้มีทิศทางเติบโตได้ดี เนื่องจากบริษัทเป็นรูปแบบโฮลดิ้งลงทุนในธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย บล.คันทรี่ กรุ๊ป (CGS) ซึ่ง CGH ถือหุ้น 99.3% , บลจ.เอ็มเอฟซี (MFC) ถือหุ้น 24.8% ,และ บมจ.ผาแดงอินดัสทรี (PDI) ถือหุ้น 25%

สำหรับบริษัทในเครือที่คาดเห็นการเติบโตชัดเจนในปีนี้คือ PDI เนื่องจากตลอด 3 ปีที่ผ่านมาได้ปรับโครงสร้างธุรกิจให้มีศักยภาพทำกำไรดีขึ้น ตามแผนการลดต้นทุนด้านต่างๆ ล่าสุดอยู่ระหว่างเจรจาซื้อกิจการในต่างประเทศมูลค่าหลักหมื่นล้านบาท เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเห็นความชัดเจนได้เมื่อใด แต่บริษัทมองเห็นถึงโอกาสการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมากในรอบหลายปี จึงเป็นโอกาสของการซื้อกิจการในต่างประเทศในมูลค่าที่มีความเหมาะสม

ส่วนธุรกิจหลักทรัพย์ CGS มีแผนการพัฒนาธุรกิจด้านตลาดทุนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเป็นเจ้าภาพจัดประชุมโกลบอล อลิอันซ์ พาร์ทเนอร์ 2019 (GAP 2019) จากการได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ GAP ถือเป็นหนึ่งเครือข่ายที่มีสมาชิกด้านตลาดทุนและตลาดการเงินขนาดใหญ่กว่า 22 ประเทศทั่วโลก มีการจัดการและให้คำปรึกษากับกองทุนส่วนบุคคลและสถาบันทั่วโลกเป็นมูลค่าแล้วกว่า 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

จากการแลกเปลี่ยนมุมมองในการประชุม GAP ครั้งนี้ นายทอมมี่ เชื่อว่าจะเปิดโอกาสทางธุรกิจให้กับบริษัทโฮลดิ้ง ให้สามารถลงทุนในกิจการต่างประเทศที่มีความน่าสนใจ และสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ขณะเดียวกันยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านเครือข่ายธุรกิจงานวาณิชธนกิจให้กับ CGS ได้เป็นอย่างดี ทั้งในด้านธุรกรรมการลงทุนของลูกค้าจากต่างชาติ หรือการทำดีลระหว่างประเทศในด้านต่างๆ

นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานกรรมการ MFC เปิดเผยว่า เครือข่าย GAP มีทั่วโลก นับเป็นประโยชน์ให้กับประเทศไทยที่ปัจจุบันมีโครงการขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ล่าสุดมีนักลงทุนต่างชาติได้ให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในไทยจำนวนมาก เพราะมองเห็นถึงศักยภาพการเติบโตในอนาคต ขณะที่พื้นฐานทางเศรษฐกิจยังมีความแข็งแกร่ง รองรับกับปัจจัยเสี่ยงภายนอกประเทศได้ดี ซึ่งการที่ CGS เป็นสมาชิกในเครือข่ายของ GAP จะสร้างโอกาสเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงนำเงินลงทุนต่างชาติเข้ามาในไทยได้มากขึ้น โดยอุตสาหกรรมที่ต่างชาติให้ความสนใจมากคือ กลุ่มอุตสาหกรรมเกี่ยวข้องกับสุขภาพ ,อุปโภคและบริโภค รวมถึงอุตสาหกรรมเกี่ยวข้องกับโครงการใน EEC เป็นต้น

ด้านนายวีรพัฒน์ เพชรคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CGS เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมุ่งขยายงานธุรกิจวาณิชธนกิจมากขึ้น โดยการร่วมเป็นสมาชิกกับ GAP ครั้งนี้ จะเป็นการเปิดโอกาสขยายงานในหลายด้าน อาทิ ที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดโอกาสได้รับดีลต่างๆจากเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลก ล่าสุดบริษัทเป็นที่ปรึกษาทางการเงินรวมกว่า 10 ดีล รวมมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท คาดสรุปได้ 1 ดีลภายในเดือน มิ.ย.-ก.ค.นี้

ส่วนแผนงานเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ให้กับภาคธุรกิจต่าง ๆ ในประเทศนั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างผลักดันเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีก 2 บริษัท คาดเห็นความชัดเจน 1 บริษัทในปลายปีนี้ ไม่นับรวมกับ บมจ.มิตรสิบ ลิสซิ่ง (MITSIB) ที่กำลังจะเข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 11 มิ.ย.นี้

สำหรับแผนการขยายธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ล่าสุดมีแผนดึงตัวมาร์เก็ตติ้งในอุตสาหกรรมหลากหมายเข้ามาช่วยขยายฐานลูกค้า มีเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) สิ้นปีนี้เป็น 2.5-3% จากปัจจุบันอยู่ที่กว่า 1% โดยธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ยังเป็นรายได้หลักมี 60% ของรายได้รวม ทั้งนี้ การดึงทีมใหม่เข้ามาเสริมจะมุ่งเน้นบริการบริหารความมั่งคั่งให้กับลูกค้า โดยวางเป้าหมายการเติบโตของธุรกิจบริหารกองทุนส่วนบุคคลในสิ้นปีนี้เพิ่มเป็น 2-3 พันล้านบาท จากสิ้นปี 61 อยู่ที่ 120 ล้านบาทเท่านั้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ