บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) ประกาศให้ บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด เป็นผู้ชนะประมูลงานกิจกรรมเชิงพาณิชย์ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จากผู้ยื่นข้อเสนอที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้น 2 ราย คือ กลุ่มคิง เพาเวอร์ และ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) ขณะที่ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ถูกตัดสิทธิไปก่อนหน้านี้ โดย AOT จะนำผลการประมูลดังกล่าวนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันที่ 19 มิ.ย.นี้
นายวิชัย บุญยู้ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT เปิดเผยว่า บริษัท คิงเพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด เป็นผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุดในการเปิดซองเสนอค่าตอบแทน เป็นราคาที่เสนอสูงกว่าเดิมที่จ่ายอัตราผลตอบแทนให้ AOT ปีละ 2 พันล้านบาท ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่าที่ AOT คาดหมาย ส่วน CPN ได้คะแนนเป็นอันดับสอง
อย่างไรก็ตาม การให้คะแนนจากด้านเทคนิคอยู่ที่ 80% และด้านผลตอบแทน 20%
การดำเนินงานขั้นตอนต่อไป AOT จะนำผลการคัดเลือกเสนอคณะกรรมการพิจารณารายได้ของ AOT ในวันที่ 12 มิ.ย.62 และเสนอต่อคณะกรรมการบริษัท ในวันที่ 19 มิ.ย.นี้
นายวิชัย กล่าวว่า บริษัทได้เจรจากับคิงเพาเวอร์ซึ่งเป็นผู้ชนะแล้วที่จะจ่ายผลตอบแทนมากกว่าเดิมที่มีอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำอยู่ที่ 2 พันล้านบาท /ปี โดยในเงื่อนไขทีโออาร์ AOT จะได้รับผลตอบแทนจากอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำ หรือ ส่วนแบ่งรายได้ 15%ของรายได้ ตามเงื่อนไขในทีโออาร์ตลอดสัญญา 10 ปี โดยให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า
ทั้งนี้ พื้นที่เชิงพาณิชย์ในสัญญาใหม่จะเพิ่มพื้นที่เป็น 2.2 หมื่นตร.ม.จากเดิมที่มีเพียงพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 มีจำนวน 1.8 หมื่นตร.ม. โดยส่วนที่เพิ่มขึ้นมาจากอาคารเทียบเครื่องบินรองที่มีพื้นที่ 4 พันตร.ม.
รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าวว่า จากการประมูลทั้งดิวตี้ฟรีและพื้นที่เชิงพาณิชย์สนามบินสุวรรณภูมิครั้งนี้ จะทำให้ AOT จะมีสัดส่วนรายได้จากกิจการที่ไม่ใช่การบิน (Non-Aero) มากขึ้นกว่าเดิมที่มีสัดส่วน 40%