สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (27 - 31 พฤษภาคม 2562) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 492,476.71 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 98,495.34 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 40% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของ ตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 70% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 345,563 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วน ใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 115,102 ล้านบาท และหุ้น กู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 25,167 ล้านบาท หรือคิดเป็น 23% และ 5% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB386A (อายุ 19.1 ปี) LB326A (อายุ 13.1 ปี) และ LB28DA (อายุ 9.6 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายใน แต่ละรุ่นเท่ากับ 17,965 ล้านบาท 16,586 ล้านบาท และ 16,298 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด รุ่น KCC199B (AAA) มูลค่าการซื้อขาย 2,220 ล้านบาท หุ้นกู้ของ บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด รุ่น KCC203A (AAA) มูลค่าการซื้อขาย 1,574 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รุ่น TLT198B (AAA) มูลค่าการซื้อขาย 1,434 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับลดลงประมาณ 1-10 bps. ในตราสารระยะยาว ด้านปัจจัยต่างประเทศ ภาวะอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 3 เดือน สูงกว่าอายุ 10 ปี (Inverted Yield Curve) สร้างความกังวลต่อการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น และความไม่แน่นอนของสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ด้านนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศว่าจะ ลาออกจากหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยม ในวันที่ 7 มิ.ย. เพื่อเปิดทางให้มีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เนื่องจากการเจรจาต่อรองกับสหภาพยุโรป (อียู) เพื่อแยกทางกับอียูตามผลประชามติ Brexit เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ไม่ผ่านความเห็นชอบของสภามาแล้วถึง 2 ครั้ง ขณะที่สหภาพยุโรปรายงานตัวเลขความเชื่อมั่นภาคธุรกิจประจำเดือน พ.ค. อยู่ที่ระดับ 0.30 จุด ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 0.40 จุด
สัปดาห์ที่ผ่านมา (27– 31 พ.ค. 62) มีกระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 4,473 ล้านบาท โดยเป็นการซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น (อายุคงเหลือไม่ เกิน 1 ปี) 8,365 ล้านบาท และขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (อายุมากกว่า 1 ปี) 3,892 ล้านบาท และไม่มีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี (27 - 31 พ.ค. 62) (21 - 24 พ.ค. 62) (%) (1 ม.ค. - 31 พ.ค. 62) มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 492,476.71 350,528.40 40.50% 8,550,450.29 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 98,495.34 87,632.10 12.40% 84,657.92 ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 107.29 106.9 0.36% ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price index) 104.13 104.12 0.01% เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --% ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี สัปดาห์นี้ (31 พ.ค. 62) 1.68 1.77 1.81 1.88 2.06 2.43 2.69 3.24 สัปดาห์ก่อนหน้า (24 พ.ค. 62) 1.67 1.77 1.8 1.89 2.09 2.49 2.79 3.27 เปลี่ยนแปลง (basis point) 1 0 1 -1 -3 -6 -10 -3