(เพิ่มเติม) TRAFทุ่ม 60-120 ลบ.สร้างหนัง 3 เรื่องปีนี้หลัง MAJOR เสริมทัพ พลิกกำไร

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 6, 2008 16:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย ในฐานะผู้ก่อตั้ง และว่าที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ทราฟฟิกคอร์นเนอร์ โฮลดิ้งส์ (TRAF)  กล่าวว่า บริษัทฯ จะเริ่มต้นความร่วมมือในการทำธุรกิจภาพยนตร์มาเสริมรายได้ หลังจากได้บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป  (MAJOR) เข้ามาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจและถือหุ้นกว่า 51% แล้ว ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้บริษัทสามารถทำกำไรได้ในปี 51 
"ปีนี้เรามั่นใจว่าจะพลิกกลับมามีกำไร จากเดิมที่เราขาดทุน 3 ไตรมาสในปี 50 ประมาณ 7-8 ล้านบาท แต่กำไรคงไม่ได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด"นายสุรพงษ์ กล่าว
ในปี 51 บริษัทจะสร้างภาพยนตร์เองประมาณ 3 เรื่อง ใช้งบลงทุนเรื่องละ 20-40 ล้านบาท โดยเบื้องต้นได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับและเสนอแนวทางในการผลิตแล้ว รวมทั้งจะซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์จากต่างประเทศมาฉายในโรงภาพยนตร์ และจะต่อยอดไปขายในฟรีทีวีด้วย ซึ่งก็จะทำให้มีรายได้จากค่าโฆษณาเสริมเข้ามาด้วย
ส่วนธุรกิจการถ่ายทอดการแข่งขันกีฬาก็ยังคงทำอยู่ เนื่องจากบริษัทยังคงเหลือลิขสิทธิ์ ฟุตบอล FA CUP, บุนเดสลีกา เยอรมัน และ กัลโซ่ เซเรอา ที่ยังสร้างรายได้ให้กับบริษัทอยู่
นายสุรพงษ์ คาดว่า สัดส่วนรายได้ในปีนี้จะมาจากธรุกิจภาพยนตร์ประมาณ 60-70% ส่วนธุรกิจอื่นๆ เช่น รายได้จากลิขสิทธิ์ และรายการทีวี จะมีสัดส่วนประมาณ 30-40%
สำหรับการแก้ไขปัญหาขาดทุนสะสมของบริษัทที่ปัจจุบันเหลืออยู่ประมาณ 60-70 ล้านบาทจากเดิมที่มีอยู่สูงถึง 500 ล้านบาท นายสุรพงษ์ กล่าวว่า บริษัทได้ลดการขาดทุนสะสมมาอยู่ในระดับที่น่าพอใจแล้ว มีวิธีทางการเงินหลายรูปแบบที่จะล้างขาดทุนสะสมที่เหลือ โดยเฉพาะการนำส่วนล้ำมูลค่าหุ้นที่บริษัทมีอยู่ประมาณ 200 ล้านบาทมาล้างขาดทุนสะสมได้
แต่เนื่องจากในปีนี้บริษัทต้องการเน้นการสร้างรายได้ที่เติบโตและการรีแบรนดิ้งธุรกิจของ TRAF ให้มีความชัดเจนหลังมีการควบรวมกิจการ จึงยังไม่มีแผนจะล้างขาดทุนสะสม
และแม้ว่า การที่กลุ่ม MAJOR จะเข้ามาถือหุ้น 51% และถือว่าเป็นผู้ถือหุ้นรายหลัก แต่ทาง MAJOR ไม่ได้มีการส่งคณะกรรมการเข้ามานั่งบริหารในบริษัทแต่อย่างใด
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ราคาหุ้น TRAF ที่เคลื่อนไหวค่อนข้างหวือหวา อาจเป็นเพราะนักลงทุนเห็นว่าภายหลังจากที่ MAJOR เข้ามาถือหุ้นน่าจะทำให้บริษัทยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก และจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะสภาพคล่องของหุ้นในตลาดมีเพียง 30 ล้านหุ้น อาจจะทำให้ผู้ที่ต้องการเข้ามาสร้างราคาสามารถทำได้ง่าย
และการที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) สั่งห้ามซื้อขายหุ้น TRAF ในลักษณะ Net Settlement และ Margin Trading ที่จะครบกำหนด 2 เม.ย.นี้ ถือเป็นมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองรายย่อย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ