นายธีรธัชช์ สิงห์ณรงค์ธร ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มสนับสนุน บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ปรับลดเป้ารายได้ปีนี้ลงมาอยู่ที่ 25,115 ล้านบาท จากเดิมที่คาดทำได้ 26,115 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมสินเชื่อบ้าน (LTV) ที่ส่งผลกระทบต่อยอดโอนบ้านเดี่ยวและทาว์เฮาส์ 20% และกระทบต่อยอดโอนคอนโดมิเนียม 30%
ขณะเดียวกันมองแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/62 คาดว่าจะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาส 1/62 จากเป็นช่วงของโลซีซั่นของธุรกิจที่มีวันหยุดค่อนข้างมาก และในปีนี้ก็มีวันหยุดมากเป็นพิเศษ ทำให้ส่งผลกระทบต่อการขายโครงการ
อย่างไรก็ตามบริษัทฯ จะมีการหารายได้จากทางอื่นเข้ามาเสริม เช่น การขายที่ดิน โดยปีนี้ตั้งเป้าขายที่ดินไว้ที่ 8,400 ล้านบาท โดยจะขายให้กับบริษัทร่วมทุน เช่น Sumitomo, Sekisui, HKL เป็นต้น ส่วนการซื้อที่ดินในปีนี้คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท
"ที่เรามีการปรับลดเป้ารายได้ลงมานั้นเพื่อให้เข้าไปสถานการณ์จริงๆ เนื่องจากมีมาตรการ LTV ทำให้ส่งผลกระทบต่อยอดโอนทั้งคอนโดมิเนียม และบ้านเดี่ยว ทาว์เฮาส์พอสมควร อีกทั้งปีนี้ยังมีวันหยุดค่อนข้างมากเป็นพิเศษ ทำให้ไม่มีเวลาขาย"
ทั้งนี้ในไตรมาส 2/62 บริษัทฯ มีแผนเปิดโครงการจำนวน 4 โครงการ โดยทั้งปียังคงเป้าเปิดโครงการไว้ที่ 17 โครงการ มูลค่ารวม 39,345 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น โครงการบ้านเดี่ยว ทาว์เฮาส์และบ้านแฝดจำนวน 15 โครงการ และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ ซึ่งยังคงเป้ายอดขายรวมทั้งปีไว้ที่ 22,400 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาสแรกทำได้แล้ว 4,432 ล้านบาท
นายธีรรัชช์ กล่าวว่า บมจ.แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ (GRAND) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย มีแผนที่จะขายหุ้นของบมจ.โรงแรมรอยัล ออคิด (ประเทศไทย) (ROH) ในสัดส่วน 40% จากปัจจุบันที่ถืออยู่ 98.48% ในราคาที่สูงกว่าเท่าตัวจากราคาซื้อที่ 41 บาท/หุ้น โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับผู้สนใจ 1-2 ราย คาดว่าจะสามารถปิดดีลได้ภายในปีนี้ ซึ่งบริษัทฯ ก็จะสามารถรับรู้เข้ามาเป็นกำไรพิเศษ ขณะเดียวกันเงินที่ได้จากการขายหุ้นดังกล่าวจะนำไปใช้คืนเงินกู้ ที่ GRAND นำไปซื้อ ROH จำนวน 2,000 ล้านบาท เพื่อลดภาระดอกเบี้ยลง คาดว่าหนี้สินต่อทุน (D/E) ของ PF จะลดลงมาอยู่ที่ 1.6 เท่า จากเดิม 1.88 เท่า