นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยหลังจากที่ทราบผลการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ช่วยให้บรรยากาศการลงทุนลดความผันผวนลง แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องรอการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีเพื่อรอดูการจัดสรรงบประมาณก่อนว่าจะออกมาเป็นอย่างไร และสามารถผ่านไปได้ด้วยดีหรือไม่
ทั้งนี้ เบื้องต้นคาดว่าหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างจะได้รับอานิสงส์จากมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐที่มีความต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนในโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งช่วงที่เหลือของปี 62 บัวหลวงเตรียมนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีก 1-2 แห่ง
ส่วนนายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า ได้ปรับลดเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทยลงเหลือ 1,670 จุด จากเดิมที่คาด 1,760 จุด โดยเป็นผลมาจากการที่กลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่เป็นบริษัทที่มีสัดส่วนหลัก คือ บมจ.ปตท. (PTT) และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ผลประกอบการไตรมาส 1/62 ออกมาไม่ดีนัก
ขณะเดียวกันยังคงต้องติดตามสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปหลังจากที่ได้ทราบผลการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว เนื่องจากจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของฝ่ายที่เตรียมจัดตั้งรัฐบาลและฝ่ายที่คาดหมายว่าจะเป็นฝ่ายค้านใกล้เคียงกันมาก ทำให้มองว่าการลงคะแนนเสียงผ่านนโยบายต่างๆ จึงมีความเสี่ยงมากขึ้น
"ความเสี่ยงทั้งด้านเศรษฐกิจ ความเสี่ยงทางด้านการเมืองยังคงกดดันภาพรวมตลาดหุ้นไทยอยู่ ซึ่งยังคงต้องติดตามต่อไป แต่ด้วยภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 1/62 ที่ผ่านมาบริษัทที่ขนาดใหญ่ของไทยผลประกอบการออกมาไม่ดีนัก จึงได้ปรับลดเป้าหมายดัชนีลงให้เหมาะสม" นายชัยพร กล่าว