หุ้น AOT ปรับขึ้น 1.15% มาที่ 65.75 บาท หรือเพิ่มขึ้น 0.75 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 370.44 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.47 น. โดยราคาหุ้นเปิดตลาดที่ 65.25 บาท ราคาทำระดับสูงสุดที่ 65.75 บาท และราคาทำระดับต่ำสุดที่ 65 บาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ โดยชูหุ้นบมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) เป็นหุ้นเด่นกลุ่มท่องเที่ยว ในส่วนที่เกี่ยวกับการบิน โดยในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มเป็น 14 ล้านคน เติบโตได้ราว 2.1% แต่เป็นกลุ่มที่จับจ่ายใช้สอยไม่มาก โดยหลักมาจากนักท่องเที่ยวอาเซียนและเอเชียใต้ที่มากขึ้น คือ +5.7%YoY และ +20.7%YoY ตามลำดับ แต่นักท่องเที่ยวที่มีการจับจ่ายใช้สอยสูงอย่างยุโรป ตะวันออกกลาง -1.7%YoY และ -8.8%YoY ตามลำดับ ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวจีนซึ่งมีสัดส่วนใหญ่อันดับ 1 ของไทยหดตัวมากขึ้นในเดือนเม.ย.62
สำหรับมาตรการกระตุ้นของภาครัฐอาจช่วยแค่พยุงไม่ได้ลดลงในปีนี้ จากข้อมูลของ AOT พบว่าจำนวนผู้โดยสารต่างชาติในช่วง 1-25 พ.ค.62 หลังมีการขยายฟรีวีซ่าจากเม.ย.62 เป็นสิ้นสุดต.ค.62 ก็ทรงตัว (+0.4%YoY) บ่งชี้ว่ามาตรการนี้อาจจะไม่ช่วยกระตุ้นให้มีการเติบโตได้มากนัก ส่วนมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองหลักและเมืองรองในประเทศก็ช่วยเพิ่มนักท่องเที่ยวในประเทศค่อนข้างจำกัด เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่ค่อยเอื้ออำนวย
นอกจากนี้การประมูลพื้นที่ดิวตี้ฟรีและพื้นที่ค้าปลีกเชิงพาณิชย์ สนามบินสุวรรณภูมิ ที่ได้ประกาศผู้ชนะประมูลสัมปทานแล้วคือ กลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์ หลังจากนี้จะมีการเสนอบอร์ดพิจารณาผลประมูล 19 มิ.ย.62 และส่งต่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ แต่ตลาดยังติดตามเรื่อง Revenue sharing ที่ AOT จะได้รับจากการประมูลรอบนี้ ซึ่งคาดการณ์ว่ารายได้ที่ AOT จะได้รับจากสัมปทานรอบใหม่นี้จะมากขึ้นเมื่อเทียบกับสัมปทานเดิม แต่อาจมีความเสี่ยงว่าอาจจะต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
บล.ดีบีเอสฯ ทำการวิเคราะห์ความอ่อนไหวในเรื่องนี้ ซึ่งพบว่าใน Base case ให้ Revenue sharing ที่บริษัทจะได้รับอยู่ที่ 30% จะได้ราคาพื้นฐาน AOT เท่ากับ 72 บาท และการเปลี่ยนแปลง Revenue sharing ทุกๆ 5% จะทำให้ราคาพื้นฐานเปลี่ยนแปลงไป 2 บาท/หุ้น
ทางด้านเทคนิค แนะนำ"ซื้อ"ตามด้วยค่าบวกของราคาหุ้นและยืนเหนือ 66 บาทได้อย่างมั่นคง แนวต้านระยะสั้น 68-70 บาท การอ่อนตัวต่ำกว่า 65 บาท มีแนวรับเก็งกำไร 62-60 บาท