ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เผยแพร่รายงานการลงทุนทางตรงในต่างประเทศ และ/หรือมีรายได้จากต่างประเทศของบริษัทจดทะเบียนใน (Economic Exposure Universe) สำหรับปี 61 มีบริษัทใน SET และ mai ที่จัดอยู่ใน Global Economic Exposure Universe จำนวน 331 บริษัท เพิ่มขึ้นจาก 322 บริษัท ในปีก่อน
ณ สิ้นปี 61 บริษัทจดทะเบียนจำนวน 231 บริษัทมีการลงทุนในต่างประเทศ หรือคิดเป็น 44% ของบริษัทจดทะเบียนใน SET เพิ่มขึ้นจาก 226 บริษัทในปีก่อนหน้า โดยในทุกอุตสาหกรรม และบริษัททุกขนาดมีการลงทุนในต่างประเทศ สำหรับภูมิภาคเป้าหมายหลักของการลงทุนได้แก่ อาเซียน โดยเมียนมามีจำนวนบริษัทไปลงทุนมากที่สุด ตามด้วย เวียดนาม และอินโดนีเซีย
ในปี 61 บริษัทจดทะเบียนมีมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศรวม 1.99 แสนล้านบาทซึ่งสูงที่สุดในรอบ 8 ปี และคิดเป็น 19% ของเงินลงทุนทั้งหมด การลงทุนในต่างประเทศไม่ทำให้การลงทุนในประเทศลดลง ในทางตรงข้ามมูลค่าเงินลงทุนในประเทศอยู่ที่ระดับ 8.18 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน
ในปี 61 กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารมีมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศสูงที่สุด ตามด้วยกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม โดยคิดเป็นสัดส่วน 50% และ 23% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศทั้งหมดตามลำดับ บริษัทขนาดใหญ่ยังคงใช้เงินลงทุนมากที่สุด โดย 89% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศทั้งหมดเป็นของบริษัทในกลุ่ม SET50 บริษัทจดทะเบียนส่งเงินไปลงทุนมากในยุโรปมากที่สุด ตามด้วยอาเซียน โดยคิดเป็นสัดส่วน 57% และ 19% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศทั้งหมดตามลำดับ นอกจากนี้ 84% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศเป็นการลงทุนในโครงการใหม่ ในจำนวนนี้ 56% เป็นการลงทุนที่เน้นการขยายตลาดใหม่ อีก 28% เน้นการขยายฐานการผลิต
ในปี 61 รายได้จากต่างประเทศซึ่งรวมรายได้จากส่วนงานในต่างประเทศและรายได้จากการส่งออกของบริษัทจดทะเบียนที่รายงานข้อมูลทั้งหมด 249 บริษัทเติบโตเฉลี่ย 15.7% จากปีก่อนสูงกว่ารายได้ในประเทศที่เติบโตเฉลี่ย 8.1% จากปีก่อนส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศต่อรายได้รวมของบริษัทจดทะเบียนอยู่ที่ระดับ 30.9% เพิ่มขึ้นจาก 29.4% ในปีก่อน ทั้งนี้แหล่งรายได้หลักมาจากประเทศในเอเชียโดยคิดเป็น 65% ของรายได้จากต่างประเทศทั้งหมดในปี 61