นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (ALL) เปิดเผยว่า การเข้าลงทุนในสิทธิการเช่าช่วงอาคารศูนย์การค้า เดอะ นิว ฟอรั่ม พลาซ่า ในจ.ชลบุรี พร้อมลงทุนดัดแปลงและก่อสร้างอาคารเพิ่มเติมนั้น คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จและเปิดตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 63 โดยคาดมีรายได้รวมเดือนละกว่า 10 ล้านบาท และหลังจากเปิดบริการเต็มปีในปี 64 จะส่งผลให้มีรายได้เฉลี่ย 200 ล้านบาท/ปี ซึ่งมาจากรายได้ค่าเช่า 90% และอื่น ๆ อีก 10%
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าชิงส่วนแบ่งตลาดของตลาดศูนย์การค้า และค้าปลีกในชลบุรี และคาดหวังจะเป็น Top of Mind ของลูกค้าในพื้นที่ใจกลางเมืองชลบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง รวมไปถึงเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในอนาคต
ดังนั้น มั่นใจว่าเป้ารายได้ใน 3 ปีจากนี้ (ปี 62-64) เติบโตอีกเท่าตัว จากปี 62 ที่ตั้งเป้ารายได้ที่ระดับ 4,500 ล้านบาท จากการการดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรมากขึ้นทั้งอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยที่ทยอยเปิดโครงการอย่างต่อเนื่อง และยังมีศูนย์การค้า ค้าปลีก เพิ่มเข้ามา และจากกลยุทธ์การบริหารแบบเชิงรุกดังกล่าวจะส่งผลให้มาร์เก็ตแคปของบริษัทแตะระดับ 10,000 ล้านบาทในอีก 3 ปีข้างหน้าได้ตามแผนที่วางไว้
"การแตกไลน์ธุรกิจไปยังธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทช็อปปิ้งมอลล์ในครั้งนี้ บริษัทจะดึงผู้บริหารระดับมืออาชีพเข้ามาบริหารจัดการ และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของบริษัทที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญในการสร้างการเติบโตของรายได้ให้มีความมั่นคง จากการรับรู้รายได้จากค่าเช่า และให้บริการของศูนย์การค้า เดอะ นิว ฟอรั่ม พลาซ่า ที่จะมีทั้ง ศูนย์การค้า ค้าปลีก บนพื้นที่ 11-3-74 ไร่ ซึ่งมีพื้นที่ Gross Building Area รวม 34,952 ตารางเมตร และพื้นที่ให้เช่า (Gross Leasable Area) 11,593 ตารางเมตร โดยจะเริ่มก่อสร้างในเดือนกรกฎาคม 62 โดยคาดว่าเปิดแกรนด์โอเพนนิ่งอย่างยิ่งใหญ่ได้ในครึ่งปีหลังของปีหน้า"นายธนากร กล่าว
นายธนากร กล่าวว่า การลงทุนครั้งนี้เป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ที่ให้จัดตั้งบริษัทย่อย โดยมีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท เพื่อเข้าลงทุนในสิทธิการเช่าช่วงอาคารศูนย์การค้า เดอะ นิว ฟอรั่ม พลาซ่า พร้อมก่อสร้าง ดัดแปลง อาคารศูนย์การค้า มีอายุสัญญาเช่า 29 ปี มูลค่ารวมประมาณ 600 ล้านบาท เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการสร้างอัตราการเติบโตทางธุรกิจให้ครบวงจรในระยะยาว อีกทั้งยังเป็นการกระจายรายได้ เพื่อลดความเสี่ยงการพึ่งพิงรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียว และยังเป็นการสร้างรายได้ที่แน่นอนและมีความมั่นคงและยั่งยืนมากยิ่งขึ้นในอนาคต
สำหรับเม็ดเงินจากการลงทุนในครั้งนี้มาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทส่วนหนึ่ง และจากการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน โดยไม่มีการเพิ่มทุน
ความโดดเด่นของโครงการดังกล่าวจัดเป็นจุดไฮไลท์ของเมืองชลบุรี เพราะอยู่ใจกลางเมืองชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับการส่งเสริมจากโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ซึ่งในอนาคตจะมีทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบินสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินอู่ตะเภา และสนามบินดอนเมือง รวมทั้งการพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่จากแหล่งอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ที่เชื่อมสู่ท่าเรือแหลมฉบัง มาบตาพุด และสัตหีบ สำหรับการขนส่งสินค้าระบบรางที่มีค่าใช้จ่ายต่ำ โดยรถไฟทางคู่เข้าเชื่อมโยง และมีระบบบริการการขนส่งสินค้าแบบไร้รอยต่อ (Seamless Operation) และการขยายถนนทางหลวง และมอเตอร์เวย์ รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรม และเศรษฐกิจในอนาคตมากขึ้น