ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ร่วมกับ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด พัฒนา LiVE แพลตฟอร์มเพื่อขยายบริการ เป็น "Virtual Pitching Platform" ศูนย์รวมข้อมูลผู้ประกอบการ สตาร์ทอัพ SMEs SE เพื่อให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลครบในจุดเดียว พร้อมเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตรที่ส่งเสริมผู้ประกอบการใหม่สร้างความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจ พร้อมให้บริการ 12 มิ.ย. นี้
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ ตลท.เปิดเผยว่า ตลท.พัฒนา LiVE แพลตฟอร์ม ต่อเนื่อง โดยมุ่งเป็นแกนหลักในการส่งเสริมผู้ประกอบการ ได้แก่ สตาร์ทอัพ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และวิสาหกิจชุมชน ให้เข้าถึงแหล่งระดมทุน โดยมีหน้าที่หลัก 4 ด้าน คือ 1) การตรวจสอบการมีตัวตนของสตาร์ทอัพร่วมกับพันธมิตร 2) การสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการเป็นที่รู้จักในวงกว้าง 3) การให้คำปรึกษาและส่งเสริมความรู้ 4) สนับสนุนให้เกิดการจับคู่ทางธุรกิจทั้งบนแพลตฟอร์มและนอกแพลตฟอร์ม
"ช่วงที่ผ่านมาพบว่าผู้ลงทุนมีความสนใจลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพ แต่ยังขาดข้อมูลของธุรกิจที่ครบถ้วนเพียงพอเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน ประกอบกับยังมีผู้ลงทุนไม่มากที่มีความเข้าใจถึงความเสี่ยงจากการลงทุนในสตาร์ทอัพ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงได้พัฒนาเนื้อหาที่ช่วยตอบโจทย์แก่ผู้ลงทุนผ่านบริการที่เพิ่มขึ้นบน LiVE แพลตฟอร์ม โดยมีบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) เป็นผู้พัฒนาระบบ ทั้งนี้ รูปแบบการนำเสนอเป็นรูปแบบเดียวกับ digital opportunity day และ digital roadshow
โดยผู้ประกอบการสตาร์ทอัพให้ข้อมูลและนำเสนอแผนธุรกิจ รวมถึงการตอบคำถามแก่ผู้ลงทุนโดยตรง ซึ่งผู้ลงทุนสามารถรับชมการถ่ายทอดสดผ่าน Facebook หรือดูย้อนหลังได้ นับเป็นช่องทางประชาสัมพันธ์ให้ผู้ลงทุนไทยและต่างประเทศรู้จักสตาร์ทอัพไทยมากขึ้น ซึ่งเชื่อมั่นว่าการเปิดเผยและการแลกเปลี่ยนข้อมูลจะช่วยลดความเสี่ยงและสร้างความมั่นใจต่อการสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพ ทั้งการร่วมลงทุนและการร่วมเป็นพันธมิตรในระยะยาว" นายแมนพงศ์ กล่าว
นอกจากนี้ LiVE แพลตฟอร์ม ยังเชื่อมโยงข้อมูลพร้อมขับเคลื่อน startup ecosystem ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนสอดคล้องนโยบายภาครัฐที่ต้องการส่งเสริมให้วิสาหกิจเริ่มต้นเข้าถึงแหล่งเงินทุนและเติบโตอย่างมั่นคง อาทิ Startup Thailand สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) สมาคมไทยผู้ประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุน (TVCA) สมาคมการค้าเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเทคโนโลยีรายใหม่ (TTSA) ซึ่งเป็นองค์กรพันธมิตรที่ทำงานร่วมกับตลท.มาอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการพัฒนาความรู้ผู้ประกอบการและผู้ลงทุน ผ่านการจัดอบรม และสัมมนา และสื่อความรู้ต่างๆ จากตลท. โดยในเฟสถัดไปจะเพิ่มในส่วนของ Blogger การให้ความรู้การลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพ Webboard เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองการลงทุนในสตาร์ทอัพ พร้อมเชื่อมโยงการสนับสนุนไปยังพันธมิตรองค์กรขนาดใหญ่ในการบ่มเพาะผู้ประกอบการ การเปิด Data API เพื่อเชื่อมต่อ เป็นต้น
นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า ไมโครซอฟท์มีจุดมุ่งหมายที่จะเสริมศักยภาพให้กับทุกคนและทุกองค์กร รวมถึงสตาร์ทอัพในประเทศไทยที่มีแนวทางการทำธุรกิจในหลากหลายรูปแบบให้เติบโตอย่างแข็งแรง
อย่างไรก็ดี สตาร์ทอัพบางรายยังขาดช่องทางเข้าถึงแหล่งเงินทุน ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี หรือแม้กระทั่งการทำการตลาด ด้วยเหตุนี้ ไมโครซอฟท์จึงเข้ามาสนับสนุนการพัฒนา Startup Community Portal ให้อยู่บนแพลตฟอร์มคลาวด์ อาซัวร์ ของไมโครซอฟท์ เพื่อพัฒนาทั้งทางเทคโนโลยีและธุรกิจของสตาร์ทอัพด้วยทรัพยากรมากมายจากไมโครซอฟท์ ในรูปแบบที่ใกล้เคียงกับโครงการระดับโลกของไมโครซอฟท์อย่าง Microsoft for Startups ซึ่งได้ดำเนินงานมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา
นายพงศ์ปิติ เอกเธียรชัย ผู้อำนวยการงานส่งเสริมบริษัทจดทะเบียนและวิสาหกิจเพื่อตลาดทุน ตลท.ในฐานะผู้อำนวยการ บริษัท ไลฟ์ ฟินคอร์ป จำกัด กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ามีสตาร์ทอัพ, SMEs, SE เข้ามานำเสนอข้อมูลทางธุรกิจบน LiVE แพลตฟอร์ม หรือ www.live-mkt.com จำนวน 100 รายภายในปีนี้ จากปัจจุบันที่มี Startup Showcase แล้วจำนวน 36 บริษัท
ทั้งนี้ เชื่อว่าจะช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งหลังจากที่ได้มีการเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ก็มีนักลงทุนต่างประเทศ ทั้งแองเจิล อินเวสเตอร์ และกองทุนในประเทศฮ่องกงให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพ โลจิสติกส์และคลังสินค้า ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 3-4 บริษัทที่อยู่บน Live แพลตฟอร์ม
ขณะที่ปัจจุบัน คอร์ปอเรท เวนเจอร์ แคปิทัล (Corporate Venture Capital) มีการลงทุนใน VC หรือ Venture Capital ในประเทศไทย คิดเป็นมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทจดทะเบียน และมีการลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพ ของนักลงทุนสถาบัน, คอร์ปอเรท เวนเจอร์ แคปิทัล, แองเจิล อินเวสเตอร์ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนในระบบรวมกว่า 10,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การนำบริษัทสตาร์ทอัพ SMEs SE เข้ามาบน LiVE แพลตฟอร์ม ถือเป็นจุดเริ่มต้น หากประสบความสำเร็จ บริษัทก็มีแผนที่จะพัฒนาเป็นกระดาน LiVe แต่ในขณะนี้ยังไม่สามารถระบุความชัดเจนได้ ซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีการเติบโต และมีแผนจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) จำนวน 3-4 ราย รวมถึงบางบริษัทก็มีศักยภาพที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ด้วย