ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นที่ร่วงลงเมื่อ 3 วันก่อน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 46.90 จุด หรือ 0.38% แตะระดับ 12,247.00 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดดีดตัวขึ้น 10.46 จุด หรือ 0.79% แตะระดับ 1,336.91 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดพุ่งขึ้น 14.28 จุด หรือ 0.63% แตะระดับ 2,293.03 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 4.44 พันล้านหุ้น ลดลงจากวันพุธที่ระดับ 3.89 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1
นายฮิวจ์ จอห์นสัน นักวิเคราะห์จากจอห์นสัน อิลลิงตัน แอดไวซอรีส์ กล่าวว่า "แม้ตลาดได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจถดถอย แต่นักลงทุนก็มองว่าการที่ตลาดร่วงลงเมื่อ 3 วันทำการติดต่อกันนั้น เป็นโอกาสดีที่จะเข้าช้อนซื้อเพื่อเก็งกำไรอีกครั้ง"
"ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังคงเป็นปัจจัยที่สกัดช่วงขาขึ้นของตลาด โดยเฉพาะตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนธ.ค.ของสมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ อีกทั้งผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทซิสโก ซิสเต็มส์" นายจอห์นสันกล่าว
ด้านนายปีเตอร์ คาร์ดิลโล นักวิเคราะห์จากเอวาลอน พาร์ทเนอร์สกล่าวว่า "การที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นนับเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อหุ้น หลังจากที่ดอลลาร์อ่อนตัวลงเป็นเวลาหลายวันได้ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับตัวเลขเงินเฟ้อและตัวเลขการลงทุนจากต่างประเทศ"
เมื่อวานนี้ ธนาคารกลางอังกฤษประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25% ในวันนี้ ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้ขยายตัวต่อไปได้ ขณะที่ธนาคารกลางยุโรปประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมที่ 4% ตามความคาดหมายในวันนี้ แม้อัตราเงินเฟ้อในยุโรปปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม
บริษัทซิสโก ซิสเต็มส์ คาดการณ์ว่ายอดขายในไตรมาสแรกของปีนี้จะเพิ่มขึ้นเพียง 10% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 15% อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ปิดเพิ่มขึ้น 30 เซนต์ แตะระดับ 23.38 ดอลลาร์
หุ้นกลุ่มค้าซึ่งร่วงลงเมื่อหลายวันก่อนนั้น ดีดตัวขึ้นแข็งแกร่งแม้ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกอย่างบริษัทวอล-มาร์ท บริษัททาร์เก็ต คอร์ป บริษัทลิมิเต็ด แบรนด์ส และบริษัทแอนน์ เทเลอร์ สโตร์ส เปิดเผยยอดขายเดือนม.ค.ที่ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยก็ตาม
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--