นพ.ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ รองประธานกรรมการ บมจ. ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) เปิดเผยว่า บริษัทรับผลกำไรในช่วงไตรมาส 2/62 ผลการดำเนินงานต่ำสุดในปีนี้ เนื่องจากบริษัทจะมีการบันทึกการตั้งสำรองเงินจากพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานใหม่ 80 ล้านบาท
แต่อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมั่นใจว่ารายได้จากโรงพยาบาลจะเติบโตต่อเนื่อง และมั่นใจว่าทั้งปีจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 10% จากการเปิดโรงพยาบาลใหม่ โดยในช่วงปลายไตรมาส 3/62 เตรียมเปิดโรงพยาบาลธนบุรี ทุ่งสง นครศรีธรรมราช ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการจะส่งผลดีต่อการรับรู้รายได้ของบริษัทในช่วงไตรมาส 4/62
นพ.ธนาธิป กล่าวว่า สำหรับ รพ.ธนบุรี ทุ่งสง เป็นโรงพยาบาลระดับทุติยภูมิที่สามารถรักษาโรคที่มีความซับซ้อน จำนวนเตียงจดทะเบียนเบื้องต้น 50 เตียง สามารถขยายได้ถึง 200 เตียง ห้องตรวจ 12 ห้อง และห้องผ่าตัด 3 ห้อง เริ่มให้บริการตรวจรักษาในแผนกสูตินารีเวช ศัลยกรรม อายุรกรรม และกุมารเวช
ส่วนแผนงานในอนาคตตั้งเป้าพัฒนาเป็นโรงพยาบาลที่มีจุดแข็งด้านแผนกฉุกเฉิน การรักษาโรคกระดูกและสมอง เพื่อเป็นทางเลือกการให้บริการดูแลสุขภาพแก่ผู้ป่วยในพื้นที่ใกล้เคียง นอกจากนี้สามารถส่งต่อผู้ป่วยเข้ารับการรักษาต่อเนื่องที่ รพ.ราษฎร์ยินดี จ.สงขลา และศูนย์หัวใจที่ รพ.พัทลุง ในเครือข่าย THG ได้อีกด้วย
"นครศรีธรรมราชเป็นจังหวัดเศรษฐกิจที่มีศักยภาพ โดยมีจำนวนประชากรมากที่สุดและมีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ในภาคใต้ คาดว่า รพ.ธนบุรี ทุ่งสง จะสามารถให้บริการเพื่อรองรับผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี และเพิ่มความแข็งแกร่งของเครือข่ายโรงพยาบาลในเครือ THG ในภาคใต้ ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการจะส่งผลดีต่อการรับรู้รายได้ของบริษัทฯ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายเช่นกัน" นพ.ธนาธิป กล่าว
ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทฯ มีโรงพยาบาลที่เปิดบริการแล้วในประเทศไทย 6 แห่ง แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 3 แห่ง ได้แก่ รพ.ธนบุรี รพ.ธนบุรี 2 และ รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง ในต่างจังหวัด 3แห่ง ได้แก่ รพ.ราษฎร์ยินดี จ.สงขลา รพ.อุบลรักษ์ ธนบุรี จ.อุบลราชธานี และ รพ.สิริเวช จ.จันทบุรี มีเตียงจดทะเบียนรวมกว่า 1,100 เตียง
"ในปีนี้บริษัทยังคงมั่นใจว่าผลรายได้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ตามการขยายตัวของธุรกิจโรงพยาบาล และจากโรงพยาบาลแห่งใหม่ที่เปิดไปแล้ว รวมถึงที่เตรียมเปิดให้บริการด้วย แต่อย่างไรก็ตามกำไรยังได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายโรงพยาบาลใหม่ และค่าใช้จ่ายพิเศษที่เกิดขึ้น แต่เชื่อว่าจะค่อยๆปรับตัวดีขึ้น"นายแพทย์ธนาธิป กล่าว
ส่วนโครงการ จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ รังสิต โครงการที่พักอาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต แบบคนสูงวัยรุ่นใหม่ ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าจะมียอดโอนกรรมสิทธิ์ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 200 ยูนิตอย่างแน่นอน จากปัจจุบันมียอดโอนแล้ว 65 ยูนิต และมียอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ (backlog) อีก 85 ยูนิต โดยในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ บริษัทเตรียมเปิดให้บริการสถาบันจิณณ์เวลเนว ดูแลสุขภาพองค์รวม และโรงพยาบาลธนบุรีบูรณา ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการด้วย
ทั้งนี้ บริษัทยอมรับว่ามาตรการให้เวชภัณฑ์บริการทางการแพทย์เป็นสินค้าควบคุมนั้น จะส่งผลกระทบต่อกลุ่มบริษัทเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากปัจจุบันราคายาของโรงพยาบาลอยู่ในระดับกลาง ถือว่าไม่ได้เกินกว่ามาตรฐาน