นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะพักฐาน โดยดัชนีฯคงจะแกว่งทั้งในแดนบวก-ลบในกรอบจำกัด เนื่องจากคงจะมีการชะลอลงทุนเพื่อรอดูผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ประชุมกันในวันที่ 18-19 มิ.ย.นี้ โดยติดตามการส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และจะมีช่องเปิดใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือไม่ ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ค่อนไปในทางบวกเล็กน้อยราว 0.2-0.3%
ทั้งนี้ เมื่อวานนี้มีแรงขายของนักลงทุนต่างชาติออกมากว่า 3 พันล้านบาท ซึ่งหากหักการทำบิ๊กล็อตของหุ้น LH แล้ว นักลงทุนต่างชาติก็ยังซื้อสุทธิอยู่ ดังนั้น จึงไม่น่าจะสร้างความกังวลอะไร
พร้อมให้ติดตามการประชุมเฟดเป็นหลัก รองลงมาก็ให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ซึ่งตลาดคาดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และวันนี้ก็ให้ติดตามผลสำรวจภาคธุรกิจของสหภาพยุโรปด้วย
โดยให้แนวรับ 1,660-1,665 จุด ส่วนแนวต้าน 1,680 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (17 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,112.53 จุด เพิ่มขึ้น 22.92 จุด (+0.09%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,845.02 จุด เพิ่มขึ้น 48.37 จุด (+0.62%) และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,889.67 จุด เพิ่มขึ้น 2.69 จุด (+0.09%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 12.23 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 3.47 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 62.54 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 16.61 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 1.42 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 4.55 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.74 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 10.55 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 มิ.ย.62) 1,667.23 จุด ลดลง 5.10 จุด (-0.30%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,081.86 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.2562
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (17 มิ.ย.62) ปิดที่ 51.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 58 เซนต์ หรือ 1.1%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 มิ.ย.62) ที่ 2.87 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.31/35 แนวโน้มแกว่งแคบ ตลาดรอผลประชุมเฟดส่งสัญญาณดอกเบี้ย มองกรอบวันนี้ 31.25-31.40
- ทุนนอกทะลักบอนด์ไทย เผยเดือนครึ่งไหลเข้ากว่า 5.7 หมื่นล้านบาท เฉพาะเดือน มิ.ย.ราว 4.4 หมื่นล้านบาท "ไทยบีเอ็มเอ" ชี้ต่างชาติมองไทยเป็น "เซฟเฮฟเว่น" ขณะ "เจพี.มอร์แกน" เพิ่มน้ำหนักบอนด์ไทย ส่งผลเงินนอกไหลเข้าอื้อ เผยส่วนใหญ่เข้าตัวยาว ด้านนักวิเคราะห์ ประเมินทิศทางเงินบาทยังแข็งค่า แนะจับตาประชุมเฟดกลางสัปดาห์นี้
- กองทุนรัฐบาลสิงคโปร์ ปรับพอร์ตลงทุนใหญ่ โดยเข้าถือหุ้นเพิ่ม 9 บริษัทในไทย พร้อมปรับลดการถือหุ้นลง 7 บริษัท โดยเทขายหุ้น "แอลเอช" เกลี้ยงพอร์ต ผ่านบิ๊กล็อตรวมกว่า 25 รายการ กวาดเงินกว่า 9 พันล้านบาท
- สนข.ลุยศึกษาความเป็นไปได้พัฒนาทางหลวงสายเดิมเป็นทางมอเตอร์เวย์ หวังลดภาระตัดถนนมอเตอร์เวย์สายใหม่ ตามแผนแม่บทเดิมที่สูงถึง 2 ล้านล้านบาท พร้อมเสนอกระทรวงคมนาคมนำร่อง 2 เส้นทางปีนี้
- สถาบันเอ็นจีวียานยนต์ร้องรัฐยกเลิกลอยตัวเอ็นจีวี กดราคาให้เหลือ 11-13 บาทต่อกก. จูงใจคนหันกลับมาใช้ โอดปั๊มปิดกิจการแล้วกว่า 50 แห่ง จ่อทยอยเจ๊งอีก 50 แห่งภายในปีนี้ พร้อมตบเท้าถก รมว.พลังงานคนใหม่ทันที
- กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เร่งเครื่องดึงต่างชาติเที่ยวไทย หลังพบ 4 เดือนแรกขยายตัวแค่ 1.8% จากปกติโตราว ๆ 8-10% โดยเฉพาะภาคใต้ทั้งภูเก็ต-พังงา เหงาสุดๆ เอกชนจี้รัฐเร่งแก้ปัญหา ขณะที่ปลัดท่องเที่ยวฯ ล้อมคอกนักท่องเที่ยวเสียชีวิตจากจักรยานยนต์ให้เช่าจำนวนมาก
*หุ้นเด่นวันนี้
- EA (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 63 บาท โดดเด่นในทุกธุรกิจ 1) ธุรกิจโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์และพลังงานลมคาดกำไรสุทธิทำ New high ต่อเนื่อง จากการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานลมโครงการหนุมานกำลังการผลิตรวม 260MW ซึ่งเริ่ม COD ตั้งแต่ 1Q62 แต่จะรับรู้รายได้เต็มไตรมาสตั้งแต่ Q2/62, 2) ธุรกิจไบโอดีเซลได้อานิสงส์ภาครัฐส่งเสริมการใช้ B10 และ B20 จากเดิม B7 และ 3) ธุรกิจแบตเตอรี่และรถยนต์ไฟฟ้า ล่าสุดคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างเฟส 1 ได้ในช่วงปลายปี เป็น Growth story ต่อเนื่องในระยะยาว
- JMT (เคทีบี) "ซื้อ"เป้าเชิงกลยุทธ์ 16.70 บาท จากแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปีคาดว่าจะเห็นกำไรปรับตัวดีขึ้นตามลำดับรายไตรมาส ขณะนี้บริษัทเตรียมตัดมูลค่าเงินลงทุนของกองหนี้ด้อยคุณภาพก้อนใหญ่ครบในช่วงปลายไตรมาส 2 ปีนี้ ซึ่งจะทำให้ไม่มีต้นทุน สามารถรับรู้กำไรได้ 100% นอกจากนี้ธุรกิจประกันจะปรับตัวดีขึ้นและมีโอกาสที่จะกลับสำรองจากการรับประกันภัยที่ตั้งไว้ใน Q4/61 สนับสนุนผลประกอบการไตรมาส 2 เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้มีพอร์ตบริหารหนี้รวม ณ สิ้น Q1/62 อยู่ที่ 146,245 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทวางเงินลงทุน 4,500 ล้านบาท เพื่อซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเตรียมออกหุ้นกู้ อายุ 3 ปี ดอกเบี้ย 4.5% ให้นักลงทุนสถาบัน/รายใหญ่ และมีลุ้นติด SET100 รอบเดือนก.ค.นี้ ที่จะประกาศสัปดาห์นี้, ปัจจุบันเทรด PE ปีนี้ 23 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีในอดีตที่ระดับ -1SD ถือเป็นหุ้น Growth+High Dividend 4-5%/ปี
- AMATA (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 28 บาท ราคาหุ้น laggard กลุ่มฯนับตั้งแต่ต้นเดือนที่การจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลชัดขึ้น AMATA เป็นหนึ่งในผู้ได้ประโยชน์จากโครงการ EEC จากทำเลที่อยู่ในชลบุรี (2.7 หมื่นไร่) ระยอง (1.7 หมื่นไร่) ซึ่งมีนิคมไทย-ไชนีส รวมถึงมีในเวียดนาม (AMATAV) อีกทั้งได้อานิสงส์จากนักลงทุนจีนย้ายฐานการผลิตหนีสงครามการค้า และที่เวียดนามก็เป็นเป้าหมายของนักลงทุนญี่ปุ่น ผู้บริหารมั่นใจปีนี้ขายที่ดินได้ 1 พันไร่ เตรียมปรับขึ้นราคา 20-30% สิ้น Q1/62 มี Backlog 3.7 พันล้านบาท โดยคาดกำไรปีนี้ +38% เป็น 1.68 พันล้านบาท