LPN ซื้อที่ดินใหม่ 1.5-2 พันลบ.ปีนี้มองทำเลทองทั่วกทม.ไม่แค่แนวรถไฟฟ้า

          บมจ. แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) เผยนโยบายจัดซื้อที่ดินใหม่ในปีนี้ในวงเงิน 1.5-2.0 พันล้านบาท ไม่ได้เลือกแต่แนวเส้นทางรถไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว เพราะถือเป็นแค่ทางเลือกหนึ่ง ขณะที่เชื่อว่าทำเลทองในการพัฒนาโครงการอาคารสูงมีอยู่กระจัดกระจายทั่วกรุงเทพ ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการจะมีวิสัยทัศน์และความแม่นยำแค่ไหน
          นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ LPN กล่าวว่า นโนบายรัฐบาลชุดใหม่ที่จะผลักดันโครงการรถไฟฟ้า 9 สายไม่ใช่เส้นทางใหม่ และเป็นเรื่องที่ตลาดรับรู้กันมานานแล้ว เพียงแต่มีความชัดเจนมากขึ้น  ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการก็เข้าไปจับจองที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าไปมากแล้ว ทำให้ราคาที่ดินตามแนวเส้นทางปรับตัวสูงขึ้นมาก และส่งผลต่อต้นทุนในการพัฒนาโครงการ 
          สำหรับการตัดสินใจเลือกทำเลในการพัฒนาโครงการของ LPN ไม่ได้พิจารณาเฉพาะแต่ปัจจัยเรื่องแนวรถไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายๆปัจจัยอีกมากที่ต้องคำนึงถึง
          "ที่ดินแนวรถไฟฟ้าก็เป็นส่วนหนึ่งของการพิจารณาซื้อที่ดิน ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ LPN ให้ความสำคัญนอกเหนือจากปัจจัยใกล้เส้นทางรถไฟฟ้า...รถไฟฟ้าเป็นเพียง 1 ในหลายๆปัจจัยที่ LPN จะตัดสินใจซื้อที่ดิน เลือกทำเล มีเรื่องอื่นๆด้วย โดยเฉพาะความต้องการ ความหนาแน่นของประชากร"นายโอภาส กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
          นายโอภาส กล่าวว่า LPN ไม่มีนโยบายเก็บ LandBank แต่จะซื้อที่ดินแล้วพัฒนาโครงการทันที ซึ่งปีนี้ตั้งงบลงทุนซื้อที่ดินไว้ประมาณ 1.5-2 พันล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 50 ซึ่งใช้เงินซื้อที่ดินไป 1.5 พันล้านบาท 
          ส่วนอนาคตจะตั้งงบซื้อที่ดินสูงขึ้นตามราคาที่ดินหรือไม่ ขึ้นอยู่กับอัตราการเติบโตของบริษัทว่าในแต่ละปีเรามีแผนพัฒนาโครงการมากน้อย ถ้ามองว่าบริษัทจะต้องมีรายได้เติบโตขึ้น งบซื้อที่ดินก็อาจจะเพิ่มขึ้น อีกทั้งหากบริษัทมีแผนจะพัฒนาแต่โครงการที่อยู่ตามแนวรถไฟฟ้า แน่นอนงบลงทุนก็ต้องสูงขึ้นด้วย
          "เราตั้งงบซื้อที่ดินปีนี้ไว้ประมาณ 1.5-2 พันล้านบาท และคาดว่ารายได้ในช่วง 1-2 ปีนี้จะโตประมาณ 20%"นายโอภาส กล่าว
          นายโอภาส กล่าวว่า ปัจจุบันกรุงเทพมหานครยังมีที่เหลือให้พัฒนาโครงการตึกสูงได้อีกมาก แล้วแต่ว่าใครจะมองเห็นโอกาส เพียงแต่ต้องดูทำเลให้ดี
          "กรุงเทพเป็นเมืองใหญ่ บางที่โอเวอร์ซัพพลาย บางที่ก็อันเดอร์ซัพพลาย บางที่โอเวอร์ดีมานด์ บางที่อันเดอร์ดีมานด์ ตัวผู้ประกอบการต้องแม่นเรื่องทำเล ถามว่าทำเลไหนยังทำโครงการได้....ที่ในเมืองมีเยอะแยะเลยครับ มีทุกย่านแหละครับ"นายโอภาส กล่าว