ก.ล.ต.เปิดรับความเห็นยกร่างเกณฑ์ให้ธุรกิจ ตปท.เข้าจดทะเบียนตลาดหุ้นไทย

          สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีแนวคิดที่จะจัดทำหลักเกณฑ์การออกและเสนอขายหุ้นเฉพาะสำหรับบริษัทต่างประเทศ เพื่อให้ยืดหยุ่นและเหมาะสมในทางปฏิบัติมากขึ้น ดังนั้น จะเปิดรับฟังความเห็นเกี่ยวกับร่างหลักเกณฑ์การอนุญาตให้บริษัทต่างประเทศเข้ามาระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยจากผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ที่สนใจ เพื่อมาประกอบการพิจารณาปรับปรุงร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าวให้เหมาะสมต่อไป 
          สำหรับหลักการที่สำคัญในการร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าว คือ มีข้อกำหนดที่เป็นมาตรฐานเทียบเคียงได้กับเกณฑ์ของประเทศอื่นในแถบเอเชีย และต้องเปิดเผยความเสี่ยงในการลงทุนในหลักทรัพย์ดังกล่าวอย่างเพียงพอ รวมทั้งต้องมีมาตรการคุ้มครองสิทธิพื้นฐานที่สำคัญของผู้ถือหุ้นด้วย 
          ประกอบด้วย 1)สามารถเลือกจัดทำงบการเงินตามมาตรฐานการบัญชี IFRS (International Financial reporting Standards)  หรือ US GAAP (US Generally Accepted Accounting Principles) ได้  2) สามารถใช้สำนักงานสอบบัญชีและบริษัทประเมินราคาทรัพย์สินที่มีมาตรฐานและการควบคุมการปฏิบัติงานที่น่าเชื่อถือของประเทศที่บริษัทต่างประเทศนั้นจัดตั้ง 
          3) สามารถเปิดเผยข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษได้ ทั้งข้อมูลในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (filing) 
หนังสือชี้ชวน และข้อมูลภายหลังการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ โดยให้มีคำเตือนในหนังสือชี้ชวนให้ผู้จองซื้อหุ้นรับทราบ
เกี่ยวกับภาษาที่จะใช้ในการเปิดเผยข้อมูลต่อไปด้วย
          4) ต้องจัดให้ผู้ถือหุ้นได้รับสิทธิพื้นฐานที่สำคัญเทียบเคียงกับผู้ถือหุ้นของบริษัทมหาชนจำกัด เช่น สิทธิในการเลือกตั้ง
และถอดถอนกรรมการ สิทธิในการอนุมัติรายการสำคัญของบริษัท (เช่น การเพิ่มทุน)
          นอกจากนี้ ในการนำหุ้นของบริษัทต่างประเทศเข้าจดทะเบียนหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแนวคิดที่จะขึ้นเครื่องหมายพิเศษหรือแยกหมวดหลักทรัพย์ของบริษัทต่างประเทศออกจากหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนไทย เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถแยกแยะความเสี่ยงในการลงทุนได้ชัดเจนอีกด้วย
          อนึ่ง ปัจจุบันการอนุญาตให้บริษัทต่างประเทศออกและเสนอขายหุ้นไม่มีหลักเกณฑ์เป็นการเฉพาะ  บริษัทต่างประเทศที่ต้องการจะระดมทุนในประเทศจึงต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เดียวกับบริษัทไทย ซึ่งหลักเกณฑ์ดังกล่าวมีข้อกำหนดบางประการที่เป็นอุปสรรคในการปฏิบัติของบริษัทต่างประเทศ เช่น งบการเงินต้องเป็นไปตามมาตรฐานการบัญชีของไทย ต้องใช้ผู้สอบบัญชีและผู้ประเมินราคาทรัพย์สินที่ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. และเอกสารข้อมูลที่เผยแพร่ต้องเป็นภาษาไทย เป็นต้น