นายเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการและหัวหน้าส่วนงานวิจัย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวขึ้นกันทั่วหน้าตามดาวโจนส์ที่ขึ้นไปกว่า 300 จุดเมื่อวานนี้ ตอบรับจีน และสหรัฐฯ มีความตั้งใจที่จะเจรจาการค้ากันมากขึ้น และทิศทางดอกเบี้ยของโลกก็เป็นขาลงด้วย
แม้ว่าการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รอบนี้อาจจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่การประชุมเฟดรอบหน้าก็มีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยยังต้องติดตามผลประชุมเฟดต่อไป ว่าจะมีการส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ อย่างไร ทั้งนี้เมื่อดัชนีฯปรับตัวขึ้นก็อาจจะเผชิญแรง Take profit ในระหว่างทางได้
พร้อมให้แนวรับ 1,680 จุด ส่วนแนวต้าน 1,700 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (18 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,465.54 จุด เพิ่มขึ้น 353.01 จุด (+1.35%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,953.88 จุด เพิ่มขึ้น 108.86 จุด (+1.39%) และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,917.75 จุด เพิ่มขึ้น 28.08 จุด (+0.97%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 250.46 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 53.96 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 726.10 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 83.74 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 20.83 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 36.70 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.81 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 19.45 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (18 มิ.ย.62) 1,683.60 จุด เพิ่มขึ้น 16.37 จุด (+0.98%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 4,154.73 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2562
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (18 มิ.ย.62) ปิดที่ 53.90 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.97 ดอลลาร์ หรือ 3.8%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (18 มิ.ย.62) ที่ 2.64 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.26 ตลาดคลายกังวลสงครามการค้าสหรัฐและจีน-จับตาผลประชุมเฟดวันนี้
- พาณิชย์โชว์โครงสร้างราคาปาล์ม หลังคุมเข้มจำหน่ายปลายทาง ปรามอย่ากักตุนเกิน 4 ตัน-ทำโปรโมชั่นขายราคาต่ำกว่าทุน ลั่นหากพบเอาผิดทันที "ครม." ปลื้มราคาปาล์ม-ยางปรับตัวดีขึ้น ด้านค้าปลีก"บิ๊กซี-เทสโก้โลตัส" พร้อมร่วมมือรัฐขายตามต้นทุนแท้จริง สมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย ระบุน้ำมันปาล์ม 15 ยี่ห้อ ปรับราคาส่ง-ปลีก
- "ฐากร"มั่นใจ 3 ค่ายมือถือ ตบเท้ารับคลื่น 700 MHz วันนี้ ชี้ดีลการจ่ายเงินเอื้อประโยชน์ภาคธุรกิจรอด-รัฐไม่เสียประโยชน์
- พาณิชย์ปลื้มเดือน พ.ค. บริษัทตั้งใหม่เพิ่มขึ้น 1% หนุนทุนจดทะเบียนทะลุ 3.5 หมื่นล้านบาท ธุรกิจก่อสร้างอาคารยังคงนำโด่ง ตามด้วยอสังหาริมทรัพย์ ภัตตาคารและร้านอาหาร มั่นใจทั้งปีเข้าเป้า 7.5 หมื่นราย
- คมนาคมเร่งรัดพิจารณาค่าโดยสารรถไฟฟ้าแพง หลังโดนเสียงวิจารณ์กระหน่ำปลัดคมนาคมขอให้ รฟม.ตรวจสัญญาสัมปทานเดิมพิจารณาแนวทางเจรจาคู่สัมปทานลดค่าโดยสาร ขณะที่ปัญหาวินมอเตอร์ไซค์มอบหมายกรมการขนส่งทางบกเจรจาสำนักงานเขตแก้ปัญหาจุดตั้งวิน
*หุ้นเด่นวันนี้
- TRUE (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 6 บาท คาด TRUE จะได้ประโยชน์มากสุดจากการยืดจ่ายค่าไลเซนต์คลื่น 900MHz โดยมีกำไรเพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่คาดว่าจะลดลงประมาณ 1-2 พันล้านบาทต่อปี และช่วยลดแรงกดดันจากการเพิ่มทุน ขณะ TRUE ยังจะมีกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์ให้ DIF ในช่วง Q3/62
- AOT (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 73 บาท วันนี้จะรู้ผลตอบแทนที่ AOT จะได้รับจาก King Power ซึ่งชนะประมูลบริหารพื้นที่ Duty Free และพื้นที่ร้านค้าในสนามบินสุวรรณภูมิและในภูมิภาค (หาดใหญ่ ภูเก็ต เชียงใหม่) ใน 10 ปีข้างหน้า (ปี 2564-2573) เชื่อว่าสัญญาใหม่จะเป็นเงื่อนไขที่ดีต่อ AOT (น่าจะเน้นการันตีรายได้ขั้นต่ำ) และช่วยให้สัดส่วนรายได้ที่ไม่ได้มาจากการบินเพิ่มขึ้น ผู้บริหารตั้งเป้าสัดส่วนเพิ่มเป็น 60% ใน 3 ปีข้างหน้าจากปัจจุบันที่ 44%
- PTTGC (เคทีบี) "ซื้อ"เป้าเชิงกลยุทธ์ 66 บาท ราคาหุ้นต่ำเกินพื้นฐานยังแกร่ง โดยราคาหุ้นปัจจุบันต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี เทรดกันที่ PE ปีนี้ 8 เท่า ต่ำกว่า 10 เท่าของค่าเฉลี่ยย้อน 5 ปี บวกกับ Dividend Yield ราว 5-6%/ปี นอกจากนี้ราคาหุ้นยังต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชี PBV 0.9 เท่า EV/EBITDA ต่ำเพียง 5 เท่า และเชื่อว่าการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นนี้จะส่งผลบวกต่อ PTTGC ที่เป็นปิโตรเคมีที่เป็น Gas base ที่จะมีต้นทุนกาผลิตต่ำกว่าคู่แข่งที่เป็น Naphtha base นอกจากนี้ PTTGC เริ่มทยอยซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 50 ล้านหุ้น ตั้งแต่ 11 มิ.ย.-9 ธ.ค.นี้