นายนิพิฐ อรุณวงษ์ ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บมจ.นวนคร (NNCL) เปิดเผยว่า ทิศทางผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/62 จะต่ำกว่าช่วงไตรมาส 1/62 ที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทได้ปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิต 125 เมกะวัตต์ (MW) ในวันที่ 25 มี.ค.-11 เม.ย. และปิดซ่อมบำรุงเพิ่มเติมจากเวลาดังกล่าวเล็กน้อย ประกอบกับบริษัทจะบันทึกสำรองค่าใช้จ่ายพนักงานตามกฎหมายแรงงานใหม่ มูลค่าราว 6 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามภาพรวมรายได้ทั้งปี 62 น่าจะเติบโตราว 5% จากระดับ 969 ล้านบาทในปีก่อน เป็นผลจากการทยอยรับรู้รายได้จากธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม และมีรายได้ประจำ (Recurring Income) จากธุรกิจให้บริการระบบสาธารณูปโภค เช่น การบริหารจัดการน้ำ การขายน้ำดี และบำบัดน้ำเสียให้กับลูกค้าในเขตนิคมฯ และธุรกิจการจำหน่ายไฟฟ้าที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีโรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ประเภทโรงไฟฟ้าระบบโคเจนเนอเรชั่น กำลังการผลิต 125 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นการขายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จำนวน 90 เมกะวัตต์ และส่วนที่เหลือขายให้กับลูกค้าในนิคมฯ และปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการเฟสที่ 2 กำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์ ซึ่งจะขายให้กับลูกค้าในนิคมฯทั้งหมด โดยคาดว่าจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในเดือน ส.ค 63 จะส่งผลให้สัดส่วนรายได้ประจำเพิ่มขึ้นเป็น 80% จากปี 61 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 78%
สำหรับโครงการลงทุนธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ ภายในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานีนั้น ที่ผ่านมาได้มีการเจรจาพันธมิตรหลายรายทำให้มีความล่าช้า และคาดว่าจะสามารถสรุปผลการเจรจาได้ในช่วงไตรมาส 3/62 จากเดิมที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 2/62 โดยปัจจุบันมีพันธมิตรที่เจรจาอยู่ใกล้ชิด 1 ราย ซึ่งเป็นพันธมิตรจากต่างประเทศที่จะช่วยดึงลูกค้าเข้ามาใช้บริการในดาต้าเซ็นเตอร์ได้ ขณะที่คาดว่าการลงทุนจะใช้เงินมากกว่าที่คาดไว้เดิม 4,000 ล้านบาท