นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway up หลังจากที่ได้ปรับตัวขึ้นไปมากเมื่อวานนี้ ซึ่งคงจะแกว่งคล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวในแดนบวกเล็กน้อย โดยตลาดฯมีปัจจัยบวกจากผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณชัดเจนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ดีให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่จะมีขึ้นในวันนี้ ซึ่งก็คาดว่าผลประชุมน่าจะออกมาในทางเดียวกัน คือการผ่อนคลายนโยบายการเงิน
อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามการประชุม G20 ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า และการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตร ในวันที่ 1-2 ก.ค.ต่อไป ส่วนบ้านเราก็ให้ติดตามการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ และลุ้นว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาหรือไม่
พร้อมให้แนวรับ 1,698-1,692 จุด ส่วนแนวต้าน 1,715-1,720 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (19 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,504.00 จุด เพิ่มขึ้น 38.46 จุด (+0.15%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,926.46 จุด เพิ่มขึ้น 8.71 จุด (+0.30%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,987.32 จุด เพิ่มขึ้น 33.44 จุด (+0.42%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 83.87 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.47 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 106.71 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 25.93 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 3.00 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 4.80 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 5.71 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (19 มิ.ย.62) 1,705.98 จุด เพิ่มขึ้น 22.38 จุด (+1.33%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,831.60 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2562
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (19 มิ.ย.62) ปิดที่ 53.76 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 14 เซนต์ หรือ 0.26%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (19 มิ.ย.62) ที่ 2.90 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.12/14 แข็งค่ารอบ 4 เดือนตามทิศทางภูมิภาค หลังเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยครึ่งปีหลัง มองกรอบ 31.08-31.30
- บอร์ด ทอท.ไฟเขียว "คิงเพาเวอร์" คว้าประมูลดิวตี้ฟรี-พื้นที่เชิงพาณิชย์ 3 สัญญา รับสัญญา 10 ปีครึ่ง การันตีผลตอบแทนขั้นต่ำ 2.4 แสนล้านบาท ชนะคู่แข่งขาดลอย เล็งลงนามสัญญา ก.ค.นี้
- "เอไอเอส-ดีแทค-ทรูฯ"มาตามนัด ตบเท้า รับไลเซ่นส์ 5จี คลื่น 700 MHz กสทช.ยิ้มได้เงินเข้ารัฐ 5.6 หมื่นล้านบาท ดีเดย์แจกใบอนุญาตต.ค.63 ดันภารกิจช่วยทีวีดิจิทัลสำเร็จ เจียดเงินชดเชยให้ 3.6 หมื่นล้านบาท เดินหน้าโรดแมพประมูลคลื่น 2600 MHz ปลายปีนี้
- บีโอไอนำทีมโรดโชว์ดึงนักลงทุน 2 เมืองใหญ่ออสเตรเลียเข้าไทย ยันสนใจเพียบโดยเฉพาะพื้นที่อีอีซี หวังใช้ไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าเพื่อส่งออกไปยังจีนและอาเซียน มองช่วงนี้เหมาะดึงการลงทุน เหตุต้นทุนค่าแรงออสเตรเลียสูง-กระทบสงครามการค้า
*หุ้นเด่นวันนี้
- CPALL (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 88 บาท Top pick กลุ่มค้าปลีก ปลอดภัยจากปัญหา Trade war, SSSG ยังเป็นบวกคาดปีนี้ +3% การขยายสาขายังเป็นไปตามแผนตั้งเป้าที่ 700 สาขาต่อปี และ CPALL ยังเป็นหุ้น Big cap รองรับ Fund flow ต่างชาติไหลเข้า
- AOT (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เป้า 83 บาท AOT เปิดเผยส่วนแบ่งของ 3 สัมปทานท่าอากาศยานสูงกว่าที่คาดไว้เป็นอย่างมาก ทำให้ต่อจากนี้ AOT จะคลายความกังวลในประเด็นเรื่องสัมปทานดิวตี้ฟรีอย่างชัดเจน และจะเป็นปัจจัยหนุนที่สำคัญต่อการเติบโตของรายได้และกำไรของบริษัทตั้งแต่ปี 64 เป็นต้นไป โดยคาดว่าในปี 64 บริษัทจะมีรายได้เติบโตกว่า 30% จากสัญญาสัมปทานฉบับใหม่
- TCAP (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 60 บาท สินเชื่อ พ.ค. +0.13% M-M (977 ล้านบาท) และ 5M62 +2.01% YTD สินเชื่อที่เพิ่มขึ้นเดือนนี้มาจากสินเชื่อรายย่อย (เช่าซื้อ +0.64% M-M สินเชื่อที่อยู่อาศัย +0.25% M-M) สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่และ SME มีชำระคืนทำให้ -1.78% M-M และ -0.77% M-M ตามลำดับ ด้านเงินฝาก -3.6% M-M (~2.7 หมื่นล้านบาท) จากเงินฝากกลุ่ม CASA (คาดว่าเป็นการย้ายเงินฝากไปตราสารหนี้อื่น) การควบรวมระหว่าง TBANK และ TMB ยังไม่มีความคืบหน้าใหม่ (อยู่ระหว่าง Due diligence) ผู้บริหารคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ โดยมองว่า TCAP จะได้ประโยชน์สูงสุดจากสภาพคล่องส่วนเกินที่ได้จากการขายหุ้น TBANK ทำให้ TCAP สามารถจ่ายเงินปันผลพิเศษ และมี tax benefit หลังถือหุ้นในธนาคารใหม่