นายณัชชา ยงค์สงวนชัย รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มิตรสิบ ลิสซิ่ง (MITSIB) เปิดเผยว่า หลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้ไม่นาน ก็มีนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศให้ความสนใจในการเข้ามาถือหุ้น เนื่องจากมองว่าเป็นหุ้นน้องใหม่ และมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ซึ่งในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ได้มีการเจรจาเพื่อให้ข้อมูลกับกองทุนจากประเทศสิงคโปร์ และเร็ว ๆ นี้ก็เตรียมเจรจากับกองทุนอันดับต้นๆของประเทศไทย โดยบริษัทคาดหวังจะเห็นการเข้ามาถือหุ้นของนักลงทุนสถาบันเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่ถืออยู่ประมาณ 20%
ส่วนผลการดำเนินงานในปีนี้บริษัท คาดว่ากำไรสุทธิจะสามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ หลังจากนำเงินที่ได้จากการระดมทุน (IPO) ไปใช้คืนหนี้เงินกู้จากสถานบันการเงิน ส่งผลทำให้ต้นทุนทางการเงินปรับตัวลดลงถึง 40% และอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลงมาอยู่ที่ 1.8-1.9 เท่า ขณะที่รายได้ก็คาดว่าจะเติบโตมากกว่า 30% เป็นไปตามการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อแท็กซี่และรถโดยสารสาธารณะ โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ 3,000 สัญญา หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 1,500-1,600 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีพอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ 2,800 สัญญา
ทั้งนี้ บริษัทยังคงหาโอกาสการเติบโตทางธุรกิจจากการขยายการให้บริการสินเชื่ออื่นๆ เพิ่มเติมอีก เช่น รถยนต์ไฟฟ้า(EV), รถบรรทุกหกล้อ และเรือโดยสาร ซึ่งปัจจุบันบริษัทก็อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการปล่อยสินเชื่อให้กับเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา
"หลังจากที่เราเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เราก็มีเงินค่อนข้างเยอะ ในการรองรับการขยายธุรกิจ ซี่งเราก็มองโอกาสในการขยายการให้บริการสินเชื่อให้กับกลุ่มลูกค้าอื่นๆ เช่น สายโลจิสติกส์พวกรถหกล้อ, รถ EV และจะเริ่มทำสินเชื่อแฟคตอริ่งมากขึ้นด้วย ขณะเดียวกันยังมองการปล่อยสินเชื่อให้กับเรือที่อยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะสรุปความชัดเจนได้เมื่อไหร่ เพราะต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาความเป็นไปได้" นายณัชชา กล่าว
สำหรับแอพพลิเคชั่น "APP TAXI" มีการเปิดให้ใช้งานไปเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่สามารถแข่งขันกับรายอื่นได้ บริษัทก็เตรียมจับมือกับผู้ผลิตมิเตอร์รายใหญ่ในประเทศไทย เพื่อร่วมกันพัฒนาแอพพลิเคชั่น ให้สามารถแข่งขันกับรายอื่นได้ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในเดือนก.ค.นี้ ทำให้เชื่อมั่นว่าบริษัทจะยังมีการเติบโตที่ดีในระยะยาวได้