ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงซื้อหุ้นกลุ่มเหมืองดัน FTSE100 ปิดบวก 59.9 จุด

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกขึ้นใกล้ระดับสูงสุดของวัน (8 ก.พ.) โดยหุ้นกลุ่มเหมืองเป็นที่ต้องการหลังจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น 
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE ปิดสูงขึ้น 59.9 จุด แตะที่ระดับ 5,784 ใกล้ระดับสูงสุดในการซื้อขายระหว่างวันที่ 5,805.3 จุด มีปริมาณการซื้อขายต่ำกว่าระดับเฉลี่ยที่ 2.25 พันล้านหุ้น
          "วันนี้เป็นวันที่เงียบเหงา ดัชนี FTSE 100 เคลื่อนไหวในกรอบบวกลบแคบๆ โดยยังอยูในช่วงที่มีทิศทางไม่แน่นอน" มาโนจ ลัดวา นายหน้าค้าตราสารอนุพันธ์จากเทรดอินเด็กซ์กล่าว
          หุ้นเหมืองรายใหญ่ยังสามารถเป็นแกนนำเดินหน้าขึ้น จากราคาทองแดง ทอง และแพลทตินัมที่ปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอุปทานเนื่องจากการขาดแคลนกระแสไฟฟ้าในแอฟริกาใต้
          หุ้น Antofagasta เป็นหุ้นที่ปรับตัวขึ้นสูงสุดในการซื้อขายวันศุกร์ โดยบวกขึ้น 42-1/2 หุ้น Lonmin เพิ่มขึ้น 147 หุ้น Vedanta Resources บวก 74 และหุ้น Kazakhmys ขยับขึ้น 59
          หุ้น Anglo American ปิดบวก 100 หลังจากมีรายงานว่า De Beers ที่บริษัทถือหุ้นอยู่ 45% สามารถผลิตเพชรได้ 51.1 ล้านกะรัตในปี 2550 ซึ่งยังคงรักษาสถิติการผลิตไว้ที่ระดับเดียวกับในปี 2549 แม้ว่าความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในตลาดทั่วโลกอาจจะส่งผลต่อยอดขายเพชรในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ แต่บริษัทก็เชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานของตลาดตลอดปี 2551 
          บริษัทสำรวจก๊าซ BG Group ได้รับอานิสงส์จากการที่ UBS ยกระดับหุ้นของบริษัทจาก 'neutral' เป็น 'buy' และเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 1,340 เพนซ์ จากเดิมที่ 1,240 หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสสี่ โดยหุ้น BG ปิดบวก 52 เพนซ์ 
          นอกจากนี้ หุ้น Compass Group ก็อยู่ในกลุ่มที่เดินหน้าขึ้นแข็งแกร่งเช่นกัน โดยขยับขึ้น 12-3/4 หลังจากบริษัทกล่าวว่ารายได้ในไตรมาสแรกน่าพอใจ โดยรายได้จากทั่วโลกสอดคล้องกับระดับการขยายตัวในปีที่แล้ว ส่งผลให้เมอร์ริล ลินช์ และ อินเวสเทค ซีเคียวริตี้ส์ ยังคงแนะนำให้ "ซื้อ"