นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับฐานหลังปรับตัวขึ้นไปมากแล้ว และตลาดต่างประเทศต่างก็ชะลอการลงทุน โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย, ตลาดในยุโรป และตลาดสหรํฐฯ ต่างปรับตัวลงกันเกือบทั้งหมด ในช่วงรอดูความชัดเจนการประชุม G20 ในประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งตลาดฯคาดว่าจะยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ก็คงจะมีความคืบหน้าบ้าง
นอกจากนี้ ตลาดฯได้รับรู้เรื่องธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปพอควรแล้ว และยังต้องรอดูการประชุมกลุ่มโอเปกในวันที่ 1-2 ก.ค.นี้ด้วย ซึ่งช่วงนี้ราคาน้ำมันยังปรับขึ้นอยู่ จากเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่า และสต็อคน้ำมันของสหรัฐฯปรับตัวลงมากกว่าคาด อีกทั้งยังต้องติดตามการตั้งรัฐบาลด้วย แม้ตลาดฯจะตอบรับไปแล้ว
พร้อมให้แนวรับ 1,710 จุด ส่วนแนวต้าน 1,727 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (21 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,719.13 จุด ลดลง 34.04 จุด (-0.13%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,950.46 จุด ลดลง 3.72 จุด (-0.13%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,031.71 จุด ลดลง 19.63 จุด (-0.24%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 35.08 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 2.31 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 73.08 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 69.52 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.70 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 12.69 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.95 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 12.11 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 มิ.ย.62) 1,717.14 จุด ลดลง 0.68 จุด (-0.04%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 4,612.20 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2562
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (21 มิ.ย.62) ปิดที่ 57.43 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 36 เซนต์ หรือ 0.6%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 มิ.ย.62) ที่ 2.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.78 ตลาดรอติดตามผลการประชุมกนง.-G20 ในสัปดาห์นี้ มองกรอบ 30.70-30.85
- ปิดฉากประชุมอาเซียน ผู้นำ 10 ชาติเห็นพ้องเร่งผลักดันให้การเจรจา อาร์เซ็ปแล้วเสร็จ รับมือความเปลี่ยนแปลงในภูมิภาค โดยเฉพาะผลกระทบจากความตึงเครียดทางการค้า ขณะ "พาณิชย์" เผยรมต.เศรษฐกิจอาเซียน ขอให้สมาชิกดันเจรจา อาร์เซ็ป13 ข้อบทที่ค้างให้จบปีนี้ คาดเร่งถก "แหล่งสินค้า-บริการโทรคมนาคม" สรท.พอใจผลประชุมซัมมิต หวังได้ข้อสรุปปีนี้ หนุนการลงทุนในอาเซียนเพิ่ม
- ลุ้น "บอร์ดกองสลากฯ" เคาะขายหวยบนดิน 2 ตัว 3 ตัว ผ่านแอปฯ มือถือ แก้ปัญหาขายสลากฯ เกินราคา แจ็กพอตสูงถึง 100 ล้าน
- นักค้าทองคำคาดแนวโน้มราคาทองตลาดโลกพุ่งต่อเนื่อง เผยมีโอกาสแตะ 1,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะในประเทศลุ้น 2.2 หมื่นต่อบาททองคำ ย้ำหากเงินบาทไม่แข็ง ราคาทองพุ่งแตะระดับ "2.4 หมื่น" แล้ว ยอมรับราคาผันผวนมากขึ้น
- กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเตรียมสรุปผลการศึกษาผลดี-ผลเสียการเข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลง CPTPP ให้รัฐบาลใหม่พิจารณา พร้อมเดินหน้า FTA ต่อไทยพาณิชย์คาดส่งออกขยายตัวไม่ถึง 0.6%
- "พาณิชย์" เผยข่าวดี รมต.ศก.อาเซียนสมัยพิเศษพร้อมใจเดินหน้าดัน "อาร์เซ็ป" ให้จบสิ้นปีนี้ตามเป้าหมายผู้นำ หวังสู้ศึกสงครามการค้าและความผันผวนของเศรษฐกิจการค้าโลก
- "คีรี" รอลุ้นโครงการพัฒนาอู่ตะเภาและเมืองการบิน หลังบีทีเอสพลาดโครงการรถไฟความเร็วสูง 3 สนามบินให้แก่ซีพีไป เผยไม่ผิดหวังเพราะทำเต็มที่แล้วยังมีโครงการรอให้ประมูลอีกเยอะ เดินหน้าเจรจาลดราคาค่ารถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งเส้นเหลือ 65 บาท ย้ำค่าโดยสารทั่วโลก ส่วนใหญ่รัฐบาลอุดหนุนราคาทั้งนั้น
*หุ้นเด่นวันนี้
- TOP (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 80 บาท Top pick กลุ่มโรงกลั่นซึ่งได้ Sentiment บวกจากข่าวโรงกลั่นในสหรัฐระเบิด ขณะที่ความเสี่ยงจากการขาดทุนสต๊อกน้ำมันดิบค่อยๆลดลงหลังจากราคาน้ำมันดิบดูไบทยอยฟื้นตัวขึ้นมาใกล้เคียงกับราคาปิดในช่วงไตรมาส 1/19 ที่ระดับ 67$/bbl
- SQ (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 3.2 บาท คาดกำไร Q2/62 จะชะลอตัวเหลือ 60 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน 36%QoQ แต่ดีขึ้นจากปีก่อนที่ขาดทุน 58 ล้านบาท แนวโน้มรวมปี 2562 ปริมาณขุดขนดินและถ่านหินรวมจะเพิ่มขึ้นมาก ทำให้กำไรดีขึ้น 220 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่ขาดทุน 285 ล้านบาท แนวโน้มปี 2563 จะเติบโตดีขึ้นอีกแรงหนุนงานใหม่โครงการหงสา มีอัพไซด์เพิ่มจากโครงการใหม่ คือ เหมืองถ่านหินที่เมียนมาร์ และ หงสาเฟส F
- PTTEP (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 146 บาท แม้ตลาดหุ้นมีแนวโน้มพักฐานในสัปดาห์นี้ แต่มีหลายปัจจัยหนุนหุ้น PTTEP ได้แก่ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ-อิหร่าน (ทรัมป์จะเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านวันนี้), ความหวังจากการประชุม G20 ปลายสัปดาห์, การประชุม OPEC 1 ก.ค., ดอลลาร์อ่อนค่า และเงินบาทแข็งค่าเร็วทำให้ PTTEP ได้ประโยชน์ทางภาษี อีกทั้งการซื้อกิจการต่าง ๆ จะเริ่มออกดอกผล หนุนทั้งกำไรและปริมาณสำรอง ทั้ง Murphy Oil (Q3/62), Partek Holdings (2563), การพัฒนาโครงการในแอลจีเรีย (2564) และสัมปทานใหม่บงกช-เอราวัณ (2565)