นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานกรรมการ บมจ.อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส หรือกรุงศรีออโต้ ในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) กล่าวว่า บริษัทได้พัฒนาเว็บไซต์ กรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถมากไปกว่าบริการด้านสินเชื่อยานยนต์ โดยตั้งเป้าผู้เข้าชมเว็บไซต์ 300,000 คน/เดือน และเบี้ยประกันภัยยานยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์รวม 200 ล้านบาทภายในปีแรกหลังเปิดตัว
บริษัทเชื่อว่าแพลตฟอร์มนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้าง Krungsri Auto Ecosystem โมเดลธุรกิจที่จะเชื่อมต่อบริการด้านไลฟ์สไตล์ผู้ใช้รถเข้าไว้ด้วยกัน และยกระดับมาตรฐานของธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ของประเทศไทย
"เราเล็งเห็นว่านอกเหนือไปจากสินเชื่อยานยนต์แล้ว ประกันภัยยานยนต์เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นสำหรับผู้ใช้รถ และสามารถเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้รถได้ดียิ่งขึ้น พร้อมเดินหน้ารุกตลาดบริการประกันภัยอย่างจริงจัง ผ่าน กรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์"นายไพโรจน์ กล่าว
ปัจจุบันแพลตฟอร์มดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเลือกซื้อสินค้าอย่างปฏิเสธไม่ได้ ผลิตภัณฑ์ประกันภัยก็เช่นเดียวกัน จากการสำรวจของ Bain & Company ผู้ใช้ประกันวินาศภัยในประเทศไทยประมาณ 60% หาข้อมูลผลิตภัณฑ์ผ่านอุปกรณ์มือถือ อย่างไรก็ตาม ลูกค้ายังมักพบกับความลังเลเมื่อเลือกซื้อประกันภัยยานยนต์ออนไลน์ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ไม่ตรงตามงบประมาณที่กำหนด และมีตัวเลือกค่อนข้างจำกัด
แพลตฟอร์มดิจิทัลที่บริษัทพัฒนาจะเป็นหนึ่งเดียวที่ให้ผู้ใช้รถได้เลือกซื้อประกันภัยตามงบประมาณที่กำหนด พร้อมตัวเลือกผลิตภัณฑ์หลากหลายจากบริษัทประกันภัยชั้นนำ ครอบคลุมทั้งรถยนต์ และรถบิ๊ก ไบค์ ใช้งานง่ายเพียงเลือกรายละเอียดรถ ระบุงบประมาณต่อปีที่ต้องการ เลือกชั้นประกัน และสามารถปรับเงื่อนไขได้ เช่น ทุนประกัน หรือค่าเสียหายส่วนแรก ระบบจะแสดงผลเปรียบเทียบเบี้ยประกัน ความคุ้มครอง พร้อมแนะนำเงื่อนไขที่ตอบโจทย์ให้ผู้ใช้ประกันภัยตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ สำหรับลูกค้าที่เคยซื้อประกันภัยยานยนต์กับกรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ ก็สามารถเลือกต่ออายุประกันภัยด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ได้เร็วๆนี้
นายไพโรจน์ กล่าวต่อว่า บริษัทตั้งเป้าเบี้ยประกันจากธุรกิจนายหน้าขายประกันผ่านกรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ ในปี 62 ที่ 8 พันล้านบาท ซึ่งมาจากการขายประกันรถยนต์ 3 พันล้านบาท และประกันอื่นอีก 5 พันล้านบาท โดยเป็นการขายผ่าน 3 ช่องทางของบริษัท ได้แก่ ช่องทางสาขา 52 สาขา ช่องทางเทเซลล์ และช่องทางออนไลน์ โดยในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมีเบี้ยรับรวมจากธุรกิจดังกล่าวได้แล้วราว 4 พันล้านบาท ซึ่งมั้ยใจว่าในปีนี้จะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
สำหรับการขยายช่องทางการขายประกันผ่านช่องทางออนไลน์แพลตฟอร์มนั้น บริษัทเล็งเห็นถึงพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน ซึ่งลูกค้าหันมาใช้บริการซื้อประกันผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทำให้บริษัทเห็นถึงโอกาสในการพัฒนาแพลตฟอร์มการขายประกันผ่านช่องทางออนไลน์ของกรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ ขึ้นมา พร้อมกับสร้างความแตกต่างในการแก้จุดที่เป็น pain point ของลูกค้า ที่ให้ลูกค้าสามารถเลือกงาประมาณในการซื้อประกันที่ลูกค้าสามารถชำระได้ พร้อมเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นลูกค้าทั่วไปที่ไม่ได้ใช้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์กับกรุงศรี ออโต้ และลูกค้าเก่าของกรุงศรี ออโต้ด้วย โดยที่บริษัทตั้งเป้ามีส่วนแบ่งตลาด (Market share) ในการขายประกันผ่านช่องทางออนไลน์ภายในสิ้นปีนี้ที่ 5% จากมูลค่าตลาดของการขายประกันผ่านช่องทางออนไลน์ที่ 3-4 พันล้านบาท ในปี 62 ซึ่งในช่วงแรกของการรุกไปสู่การขายประกันผ่านช่องทางออนไลน์บริษัทจะเริ่มจากการขายประกันภัยยานยนต์ก่อน โดยร่วมกับพันธมิตรประกันภัยรถยนต์ 8 บริษัท และหลังจากนั้นในช่วงต้นปี 63 จะเพิ่มการขายประกันวินาศภัยผ่านช่องทางออนไลน์เข้ามา และในช่วงปลายปี 63 จะเพิ่มการขายประกันชีวิตเข้ามาเสริม ทำให้บริการทางออนไลน์สามารถให้บริการได้ครบเท่าเทียมกับการขายประกันผ่านช่องทางอื่นๆของบริษัท ด้านสัดส่วนรายได้จากกรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ คิดเป็นสัดส่วน 10% ของรายได้ทั้งหมดในกรุงศรี ออโต้ พร้อมวางงบการตลาดของกรุงศรี ออโต้ โบรคเกอร์ ไว้ที่ 10% ของงบการตลาดทั้งหมดของกรุงศรี ออโต้ เพื่อมอบโปรโมชั่นและการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้าได้รับรู้และหันมาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น สำหรับสินเชื่อเช่าซื้อของบริษัทในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ถือว่ามีการเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ หลังจากที่ยอดขายรถยนต์ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมามีการเติบโตได้สูงกว่าที่บริษัทคาดไว้ โดยที่ยอดขายรถยนต์ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาเติบโตได้สูงถึง 11% ซึ่งสูงกว่าที่บริษัทคาดไว้ที่โต 1% เพราะส่วนหนึ่งมาจากการที่ผู้ผลิตและดีลเลอร์รถยนต์ต่างออกโปรโมชั่นและแคมเปญต่างๆมากระตุ้นยอดขายรถยนต์ตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อน หลังจากมีการคาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ในปีนี้มีโอกาสไม่เติบโตหรือเติบโตได้เพียงเล็กน้อย ทำให้ผู้ผลิตและดีลเลอร์รถยนต์หลายรายต้างเร่งการขายมาตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อนมาจนถึงต้นปีที่ผ่านมา ทำให้มีการเข้ามาขอสินเชื่อที่ค้างมาจากปลายปีก่อนมาถึงต้นปีนี้เป็นจำนวนมาก และในช่วงเดือนมี.ค.ที่ผ่านมามีงานมอเตอร์ โชว์ ทำให้มียอดขายรถยนต์เพิ่มเข้ามาอีก ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนต่อการขยายตัวเองสินเชี่อเช่าซื้อรถยนต์ยังทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยที่ในปี 62 บริษัทมั่นใจว่าการเติบโตของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ปล่อยใหม่จะยังทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้โต 3% อยู่ที่ 1.99 แสนล้านบาท จากปีก่อนที่ปล่อยใหม่ไป 1.93 แสนล้านบาท และมียอดสินเชื่อคงค้างในสิ้นปี 62 ทะลุ 4 แสนล้านบาท จากสิ้นปี 62 ที่ 3.68 แสนล้านบาท โดยบริษัทมองว่าการควบคุมสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของธนคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะไม่ส่งผลกระทบต่อการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของบริษัท เพราะบริษัทมีการพิจารณาการให้สินเชื่ออย่างเข้มงวด ตามความสามารถในการชำระของลูกค้าที่สอดคล้องกับรายได้ และลูกค้าต้องมีการวางเงินดาวน์ในระดับที่สูง ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงให้กับธนาคาร ซึ่งธนาคารมองถึงความสามารถในการชำระของลูกค้ามากกว่าสินทรัพย์ที่ได้มาจากการยึดรถ พร้อมกับการบริหารความเสี้ยงที่มีประสิทธิภาพ ที่จะเป็นสิ่งที่ทำให้บริษัทมีการดำเนินธุรกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการมีสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในระดับที่ต่ำ ซึ่งปัจจุบัน NPL ของบริษัทอยู่ที่ 1.7% และจะควบคุมไม่ให้เกิน 2% ในสิ้นปีนี้
ด้านผลตอบรับของการเปิดให้บริการกรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ถือว่าลูกค้าให้การตอบรับที่ดี และมีผู้สนใจเข้าชมเว็บไซต์เป็นจำนวนมา โดยมีผู้เข้าชมโมบายเว็บแล้ว 700,000 คน มียอดประเมินวงเงินสินเชื่อเบื้องต้นรวม 1 พันล้านบาท และมียอดปล่อยสินเชื่อรวม 100 ล้านบาท