นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.ผลิตและสำรวจปิโตรเลียม (PTTEP) กล่าวว่า บริษัทเตรียมทบทวนแผนการลงทุนช่วง 5ปี (ปี 62-66) ที่มีเม็ดเงินลงทุน 1.6 หมื่นล้านเหรียญ. หลังจากในข่วงครึ่งแรกปีนี้บริษัทได้ลงทุนต่อเนื่องที่มากกว่าแผน โดยได้ลงทุน Murphy Oil Corporation ในมาเลเซีย , Partex Holding ในตะวันออกกลาง และโครงการโมซัมบิก แอเรีย วัน
ขณะที่บริษัทเตรียมปรับเพิ่มเป้ายอดขายในปีนี้เป็น 3.4-3.5 แสนบาร์เรล/วัน จากเดิมคาดไว้ที่ 3.2 แสนบาร์เรล/วัน หลังจากบริษัทเข้าลงทุน Murphy Oil Corporation ในมาเลเซีย ซึ่งจะทำให้มีปริมาณปิโตรเลียมเพิ่มขึ้นอีก 13% โดยจะเริ่มเข้ามาในเดือน มิ.ย.นี้
ด้านต้นทุนของบริษัทขณะนี้ ต่ำมากที่ 30 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากเดิมอยู่ที่ 40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้มั่นใจว่าผลกำไรจะไม่กระทบหากราคาน้ำมันปรับตัวลงมาถึง 40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล. ทั้งนี้ บริษัทประเมินราคาน้ำมันดิบดูไบในปีนี้เฉลี่ยที่ 60-65 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
นายพงศธร กล่าวอีกว่า บริษัทคาดว่าภายในไตรมาส 3/62 จะได้ใบอนุญาตจากทางการเมียนมาสำหรับโครงการการผลิตก๊าซและโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงก๊าซ ในเมืองทางด้านตะวันตกของประเทศ ขนาดกำลังการผลิต 600 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะเจรจาร่วมทุน บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่. (GPSC) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม บมจ.ปตท. (PTT) เป็นลำดับแรก. และอาจจะเจรจากับ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนต์ (GULF) ร่วมทุนได้ โดย PTTEP จะนำก๊าซในแหล่ง M3 ในเมียนมามาใช้ในโครงการนี้