นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทเตรียมเสนอขาย "กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรออสเตรเลีย 2" อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นกองทุนรวมที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของประเทศออสเตรเลีย มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท ระยะเวลาลงทุนประมาณ 1 ปี 7 เดือน 15 วัน
สาเหตุที่เลือกลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของประเทศออสเตรเลีย เนื่องจากเป็นประเทศที่ให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสูง ประกอบกับรัฐบาลออสเตรเลียได้รับอันดับความน่าเชื่อถือสูงที่สุด คือ AAA ทำให้การลงทุนในพันธบัตรของออสเตรเลียมีความเสี่ยงต่ำ เชื่อว่าจะเป็นทางเลือกให้นักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงด้วยการลงทุนในต่างประเทศ แต่ยังคงกังวลในเรื่องสถานการณ์ความผันผวนต่างๆ เช่น ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และวิกฤติซับไพร์มจากสหรัฐอเมริกา
"กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรออสเตรเลีย 2" มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลออสเตรเลียไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาลไทย และ/หรือเงินฝาก โดยกองทุนจะลงทุนในรูปสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย
ทั้งนี้กองทุนมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนด้วย เนื่องจากไม่มีการซื้อสัญญาฟอร์เวิร์ดเพื่อป้องกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนมากขึ้น หากค่าเงินบาทอ่อนลงเมื่อเปรียบเทียบกับเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย เนื่องจากเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงินบาทต่อเงินสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียจะไม่ผันผวนมากนัก
"กองทุนนี้คาดว่าจะให้ผลตอบแทนประมาณ 5.1% ต่อปี โดยพิจารณาจากอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลออสเตรเลียที่คาดว่าจะลงทุน ซึ่งได้แก่พันธบัตรรัฐบาลออสเตรเลีย รุ่น 7 1/2 09/09 ที่ครบอายุในเดือนกันยายน 2009 คาดว่าจะให้ผลตอบแทนประมาณ 6.7% ต่อปี (www.Bloomberg.com, ข้อมูล ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551) ด้วยสัดส่วนการลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล และ/หรือเงินฝาก ผลตอบแทนประมาณ 3% ต่อปี เพื่อรักษาสภาพคล่องของกองทุน โดยมีค่าใช้จ่ายของกองทุนประมาณ 0.9 %ต่อปี" นายธีรนาถ กล่าว
กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรออสเตรเลีย 2 จะได้รับผลตอบแทนเป็นสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย โดยสัดส่วนการลงทุนและอัตราผลตอบแทนอาจเปลี่ยนแปลงไป ขึ้นอยู่กับผลการประมูลของตราสาร ณ วันที่ลงทุนและการเปลี่ยนแปลงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยจะเสนอขายครั้งเดียวในวันที่ 14-20 ก.พ. 51 นี้ เงินลงทุนขั้นต่ำอยู่ที่ 20,000 บาท
นอกจากนี้ นายธีรนาถ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมถึงกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศกองต่อๆ ไป ที่บลจ. ทิสโก้จะทยอยออกในปีนี้ว่า บริษัทมีความสนใจการลงทุนใน 3 รูปแบบด้วยกัน คือ พันธบัตรรัฐบาลต่างประเทศที่มีการจัดอันดับอยู่ในอันดับที่ดี (Rating ไม่ต่ำกว่า A-), ETF (Exchange Traded Fund) และตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง หรือ Structured Note ที่อิงกับตลาดต่างประเทศ (Offshore underlying)
พันธบัตรต่างประเทศที่เราจะเลือกลงทุนในปีนี้ ต้องมีผลตอบแทนที่ดี อยู่ในระหว่าง 4-7% และมีเรตติ้งไม่ต่ำกว่า A- รวมทั้งมีสภาพคล่องสูง และซื้อขายง่าย ส่วน ETF ที่เราสนใจเพราะมีต้นทุนต่ำกว่ากองทุนรวมทั่วไป และแนวโน้ม ETF ทั่วโลกก็จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นทางเลือกใหม่ในการลงทุนที่น่าสนใจ
สำหรับ Structured Note ที่จะเข้าไปลงทุนจะต้องได้รับการคุ้มครองเงินต้น มีอายุประมาณ 1-3 ปี และอิงกับดัชนี อัตราดอกเบี้ย หรือราคาสินค้า Commodity ในต่างประเทศ เช่นลิงก์กับดัชนีตลาดหลักทรัพย์จีน อินเดีย รัสเซีย S&P500 หรืออิงกับราคาน้ำมัน ทองคำ หรืออิงกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของประเทศนั้นๆ เป็นต้น
--อินโฟเควสท์ โดย อภิญญา วุฒิเมธากุล/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--