นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างก็บวกกันเล็กน้อย จากความคาดหวังการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ใกล้บรรลุข้อตกลงทางการค้า โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาระบุว่าเวลาการพูดคุยกับจีนไว้ที่ 9.30 น.ในวันเสาร์นี้ ซึ่งยังต้องติดตามดูต่อไป
แต่การปรับตัวขึ้นของตลาดบ้านเราอาจไม่มาก เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมาไม่ดี แม้จะจบเรื่องสงครามการค้าไปได้และทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นได้ แต่การลดอัตราดอกเบี้ยก็อาจเกิดขึ้นได้น้อยลงด้วย นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบก็ยังปรับตัวลงอยู่ แม้ว่าผลกระทบจากอิหร่านจะกระทบเศรษฐกิจถ้าเกิดการคว่ำบาตรขึ้น แต่เท่าที่ดูหุ้นในกลุ่มน้ำมันไม่ดีเท่าไหร่
ส่วนบ้านเรายังต้องติดตามการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีต่อไปซึ่งนายกรัฐมนตรีระบุว่าจะมีในกลางเดือนหน้า (ก.ค.) พร้อมให้แนวรับ 1,715 จุด ส่วนแนวต้าน 1,735 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (26 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,536.82 จุด ลดลง 11.40 จุด (-0.04%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,913.78 จุด ลดลง 3.60 จุด (-0.12%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,909.97 จุด เพิ่มขึ้น 25.25 จุด (+0.32%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 70.29 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 6.33 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 130.96 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 21.65 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 1.12 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 0.80 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 3.76 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 10.20 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 14.20 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (26 มิ.ย.62) 1,722.21 จุด เพิ่มขึ้น 0.88 จุด (+0.05%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 5,022.29 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2562
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (26 มิ.ย.62) ปิดที่ 59.38 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.55 ดอลลาร์ หรือ 2.7%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (26 มิ.ย.62) ที่ 3.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.72 ทรงตัวจากวานนี้ ตลาดรอการประชุมสุดยอดผู้นำ G20 มองกรอบวันนี้ 30.65-30.85
- กนง.หวั่นเงินบาทแข็งนำภูมิภาค ไม่สอดรับปัจจัยพื้นฐาน สั่งเกาะติดใกล้ชิด "แบงก์ชาติ"เล็งงัดมาตรการดูแลเงินไหลเข้าออกเข้มข้นขึ้นเร็วๆ นี้ ส่วนที่ประชุม กนง. เอกฉันท์คงดอกเบี้ย 1.75% หั่นจีดีพีลงเหลือ 3.3% ลดคาดการณ์ส่งออกเหลือ 0% นักวิเคราะห์ชี้ มิ.ย.เงินนอกไหลเข้าบอนด์ 7.7 หมื่นล้าน "สมคิด"ห่วงบาทแข็งฉุดส่งออก
- "สมคิด" ชี้การเมืองเริ่มชัดเจน รับแล้วอยู่ร่วมรัฐบาลใหม่ มั่นใจเศรษฐกิจครึ่งปีหลังเดินหน้าต่อ ให้การบ้าน ธ.ก.ส.เตรียมพร้อมช่วยเหลือเกษตรกร ส่อ 'ภัยแล้ง' ปีนี้หนัก
- "สมคิด" จี้ ก.ล.ต.ปราบปรามคดีปั่นหุ้นอย่างเด็ดขาด พร้อมตั้งคณะทำงานร่วมดีเอสไอ-ปปง. เอาผิดบริษัทและบุคคลที่ทำผิด ก.ล.ต.ขอแก้กฎหมายควบคุมสำนักงานสอบบัญชีและผู้สอบบัญชี
*หุ้นเด่นวันนี้
- ACG (บมจ. ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง) เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยเสนอขาย IPO ที่ 1.44 บาท/หุ้น บริษัทฯประกอบธุรกิจการถือหุ้นในบริษัทอื่น (holding company) ที่ประกอบธุรกิจจำหน่ายและการให้บริการในกลุ่มยานยนต์ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ ปัจจุบัน ACG ถือหุ้นในบริษัทย่อย คือ บริษัท ฮอนด้ามะลิวัลย์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัท ผู้จำหน่ายและศูนย์บริการรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รวมถึงการนำเสนอบริการสินเชื่อเช่าซื้อและประกันภัยรถยนต์ ปัจจุบันมีศูนย์จำหน่ายและศูนย์บริการรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าทั้งหมด 9 แห่ง ใน 5 จังหวัด ได้แก่ จ. สุรินทร์ จ. บุรีรัมย์ จ. ขอนแก่น จ. ภูเก็ต และ จ. กระบี่
- TOP (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 80 บาท เป็น Top pick กลุ่มโรงกลั่น ซึ่งได้ Sentiment บวกจากข่าวโรงกลั่นในสหรัฐระเบิด ขณะที่ความเสี่ยงจากการขาดทุนสต๊อกน้ำมันดิบค่อย ๆ ลดลง หลังจากราคาน้ำมันดิบดูไบทยอยฟื้นตัวขึ้นมาใกล้เคียงกับราคาปิดในช่วงไตรมาส 1/19 ที่ระดับ 67$/bbl
- ICHI (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เพิ่มเป้าเป็น 7.30 บาท จากการปรับกำไรปีนี้ขึ้น 21% เป็น 382 ลบ. +772% Y-Y เพราะแนวโน้มกำไร 2Q19 ดีกว่าที่เคยคาด เนื่องจากรายได้กลับมาโตทั้งในและต่างประเทศ และตลาดชาเขียวในประเทศเริ่มฟื้น ส่วนการส่งออกพึ่งพาตลาด CLMV เป็นหลักซึ่งโตได้ดี ล่าสุดเพิ่มสินค้าน้ำมะพร้าว "Ichitan WANG" ส่งออกไปจีนผ่าน JD.com และยังได้ลูกค้า OEM เข้ามาเพิ่ม ช่วยเพิ่มการใช้กำลังการผลิต หนุนมาร์จิ้นให้ดีขึ้น และยังเน้นลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายเหมือนเดิม