นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ "ยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนตลาดทุน" ในงานสัมมนา "ส่องหุ้นไทยครึ่งปีหลัง ฟุบ หรือ ไปต่อ…รับรัฐบาลใหม่" ว่า การทำงานของ ก.ล.ต.เพื่อรองรับแผนการพัฒนาตลาดทุนปี 60-64 และ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งทำให้เกิดเป็นรูปธรรม และมีความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับปรุงพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ เพื่อเพิ่มความคุ้มครองผู้ลงทุน ได้แก่ จัดตั้งกองทุนคุ้มครองผู้ลงทุน การเพิ่มจำนวนผู้สอบบัญชีบริษัทจดทะเบียนที่มีเพียง 240 ราย จากจำนวนผู้สอบบัญชีทั้งประเทศที่มี 9,928 ราย โดยได้ให้ฝ่ายกฎหมายรวบรวมข้อมูลในช่วง 1 เดือนครึ่ง และรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานอื่น และทำประชาพิจารณ์ คาดว่าจะได้ความชัดเจนในปลายปีนี้
สำหรับยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนตลาดทุนไทยจะดำเนินการภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ประกอบไปด้วย 1.การเข้าถึงตลาดทุน จากการเปิดโอกาสให้ SMEs เข้าสู่ตลาดทุนได้ง่ายและมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถออกเกณฑ์ IPO สำหรับสตาร์ทอัพได้ภายในเดือนก.ค.62
2.การยกระดับการคุ้มครองผู้ลงทุน โดยเปิดให้ประชาชนสามารถส่งเรื่องร้องเรียนมายัง ก.ล.ต.ได้ตลอด 24 ชั่วโมง, ส่งเสริมความรู้ทางกฎหมายให้กับผู้ลงทุน และประชาชน, สนับสนุนสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยในการทำหน้าที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องพ.ร.บ. การดำเนินคดีแบบกลุ่ม, บูรณาการกับหน่ายงานต่างๆ, การกำกับดูแลผู้สอบบัญชี และสำนักงานสอบบัญชี, ศึกษาการจัดตั้งกองทุนคุ้มครองผู้ลงทุน, จัดตั้ง War room ด้านสินทรัพย์ดิจิทัล, จัดทำโครงการจัดทำบทวิเคราะห์สำหรับผู้ลงทุน
3.คาราวาน ก.ล.ต. ไปสู่พื้นที่ต่างจังหวัด โดยเชิญชวนผู้ลงทุนให้มีการออมเงินมากขึ้น เพื่อเป้าหมายการเกษียณและรองรับการเป็นสังคมผู้สูงอายุ รวมถึงส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสามารถระดมทุนผ่านตลาดทุนได้มากขึ้น และส่งเสริมความรู้ พัฒนาเครือข่ายภาคประชาชนด้านตลาดทุน
4. การพัฒนานวัตกรรมและอำนวยความสะดวกให้ภาคธุรกิจ ด้วยการลดภาระ สร้างความง่าย และความสะดวก เน้นเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในการทำธุรกิจ เช่น One stop service/ One Report, ปรับปรุงเพื่อพัฒนาเป็นระบบแบบฟอร์มเดียว (Single form), กระบวรการทำความรู้จักลูกค้าผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC), เปิดคลินิกเพื่อให้บริการคำแนะนำและคำปรึกษาด้านสินทรัพย์ดิจิทัล และการลดกฎเกณฑ์ต่างๆ
5.การสร้างความสามารถในการแข่งขัน โดยกำหนดภูมิทัศน์ตลาดทุนไทยในเรื่องของการยกระดับความสามารถในการแข่งขัน, การพัฒนาขีดความสามารถและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานของผู้ให้บริการและผู้เกี่ยวข้องในตลาดทุน, ตั้งคณะกรรมการพัฒนาศักยภาพด้านการแข่งขันของตลาดทุน และสร้าง Capacity building ให้กลุ่มประเทศ CLMV ให้เติบโตไปด้วยกัน
6.การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ Big data เป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล
7.การเสิรมสร้างด้านงานต่างประเทศ
8.การพัฒนาตลาดทุนให้มีความยั่งยืน โดยยกระดับ CG เป็น ESG, การลงทุนและการระดมทุนที่คำนึกถึงความยั่งยืน
9.การพัฒนาและการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จากการแก้ไข ปรับปรุง พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์, บูรณาการการทำงานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น, การพัฒนา e-enforcement
10.การพัฒนาองค์กรไปสู่องค์กรดิจิทัล ได้แก่ การนำเทคโนโลยีมาขับเคลื่อนประเทศตามแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, การใช้ประโยชน์จากข้อมูล เพื่อการวิจัย ติดตามความเสี่ยง และตัดสินใจเชิงนโยบาย
https://youtu.be/-5cUhgCJF1