นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จาก Fund Flow ไหลเข้ามา หลังจากที่เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 6 ปี และได้แรงหนุนจากคาดหวังเชิงบวกในการประชุม G20 ที่ผู้นำของสหรัฐฯ และจีนจะตกลงกันได้
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ติดลบเล็กน้อย อาจเป็นการเทรดอย่างระมัดระวัง เพราะการประชุม G20 เริ่มวันนี้ พร้อมให้ติดตามการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนพ.ค.ของสหรัฐฯที่จะประกาศในวันนี้ เพราะจะเป็นตัวที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะนำมาใช้ในการพิจารณาการปรับอัตราดอกเบี้ยด้วย ส่วนสัปดาห์หน้าในวันที่ 1-2 ก.ค.ให้ติดตามการประชุมกลุ่มโอเปก
ส่วนบ้านเราวันนี้ให้ติดตามธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)จะประกาศตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือน พร้อมให้แนวรับ 1,727-1,728 ถัดไป 1,722 จุด ส่วนแนวต้าน 1,735-1,740 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (27 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,526.58 จุด ลดลง 10.24 จุด (-0.04%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,924.92 จุด เพิ่มขึ้น 11.14 จุด (+0.38%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,967.76 จุด เพิ่มขึ้น 57.79 จุด(+0.73%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 55.95 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 4.55 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 11.17 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 12.76 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 0.74 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 7.48 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.28 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 25.34 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (27 มิ.ย.62) 1,731.64 จุด เพิ่มขึ้น 9.43 จุด (+0.55%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,833.37 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2562
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (27 มิ.ย.62) ปิดที่ 59.43 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 5 เซนต์ หรือน้อยกว่า 0.1%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (27 มิ.ย.62) ที่ 4.27 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.78 คาดระหว่างวันผันผวนในกรอบแคบ รอดูท่าทีการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนในการประชุม G20
- "สมคิด" ไม่ห่วงเสถียรภาพ รบ.ใหม่ ไร้ปัญหาทีม ศก.ผสมจากหลายพรรค เชื่อทำงานร่วมกันได้ "สหพัฒน์" ชี้ค่าเงินบาทแข็งเร็วผิดปกติ ห่วงกระทบธุรกิจส่งออก เผยครึ่งปีแรก "มาม่า" โต 11% เพิ่มเป็น 51%
- สมาคมตราสารหนี้ย้ำชัด เงินนอกที่ไหลเข้าบอนด์ไทยยังไม่น่ากังวล เหตุเข้าตราสารระยะยาวมากกว่า ส่งผล ค่าเฉลี่ยการถือครองบอนด์ไทยของต่างชาติขยับแตะ 8.5 ปี ลั่นไม่จำเป็นต้องมีมาตรการดูแล ขณะ สศค.ยอมรับห่วงบาทแข็ง ซ้ำเติม ส่งออก เล็งปรับคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้ใหม่
- สภาธุรกิจตลาดทุนไทย มั่นใจเงินนอกโหมเข้าหุ้นไทยต่อเนื่อง หลังเดือนมิ.ย.ซื้อสุทธิเฉียด 5 หมื่นล้าน สูงสุดในภูมิภาค ฟันธงทั้งปียอดซื้อ ต่างชาติมีลุ้นแตะ 1 แสนล้าน ดันดัชนีสิ้นปีส่อแตะ 1,800 จุด พร้อมประเมินเศรษฐกิจโลกแค่ชะลอไม่ถึงขั้นถดถอย
- ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท. ต้องการให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พิจารณาช่วยลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก แม้ที่ผ่านมาคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ต่อปีแล้วก็ตาม เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจไทยโดยเฉพาะในระดับฐานรากไม่ดีนัก ประกอบกับการส่งออกที่เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจมีทิศทางที่จะชะลอตัวต่อเนื่องจากสงครามการค้าและค่าเงินบาทที่แข็งค่า
*หุ้นเด่นวันนี้
- GPSC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 70 บาท ยังไม่รวม synergy จาก GLOW โดยมองราคาหุ้นที่ laggard มานาน (+11% YTD vs. หุ้นโรงไฟฟ้า +36% YTD) ใกล้จะเคลื่อนไหวเป็นธรรมชาติหลังประกาศสัดส่วนการเพิ่มทุนใน Q3/62 ส่วนเงินเพิ่มทุน 7.4 หมื่นลบ. แม้จะเพิ่มจำนวนหุ้นเท่าตัวแต่เชื่อกำไรของ GLOW ราวปีละ 8 พันลบ. หักดอกเบี้ยที่กู้ซื้อ GLOW ~2.5 พันลบ. ยังมากกว่ากำไรของ GPSC ที่คาดทำได้ปีละ 3.8-4 พันลบ. กลบ dilution จากเพิ่มทุนได้ ด้านกำไร Q2/62 จะโตแรงหลังรับรู้ GLOW (69.11%) เต็มไตรมาส และยังมีโครงการอื่น เช่นธุรกิจผลิตแบตเตอรี่ โครงการใน EEC หนุนการโตระยะยาว
- KKP (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 72 บาท ราคาหุ้นยัง Laggard เมื่อเทียบกับ TISCO (2 เดือนที่ผ่านมา KKP +5% แต่ TISCO+12%) ทั้งที่ให้ Dividend yield ใกล้เคียงกันที่ 6-7%ต่อปี ประกอบกับตัวถ่วงของ KKP ใน Q1/62 คือธุรกิจหลักทรัพย์ แต่ปัจจุบันมูลค่าการซื้อขายปรับตัวขึ้นแล้วจึงไม่น่ากังวล อีกทั้งยังมีรายได้จากงาน IB ขนาดใหญ่หลายรายการ ทำให้แนวโน้มกำไรน่าจะ Bottom แล้ว
- MINT (ดีบีเอส วิคเคอร์ส) "ซื้อ"เป้า 46 บาท บริษัทใช้กลยุทธ์การหมุนเวียนสินทรัพย์ ด้วยการขายและเช่ากลับ 3 โรงแรมที่โปรตุเกส สำหรับโรงแรม Tivoli มูลค่าถึง 313 ล้านยูโร หรือราว 10.96 พันล้านบาท และ NHH จะเป็นผู้บริหารการเช่าต่อในอายุ 20 ปี และสามารถต่ออายุเช่าได้อีกถึง 60 ปี หลังจากดีลนี้เสร็จสมบูรณ์ บริษัทจะบันทึกำไรพิเศษก่อนภาษีได้ใน Q3/62 ประมาณ 62 ล้านยูโร หรือราว 2.2 พันล้านบาท คิดเป็น 32% จากประมาณการกำไรหลักปี 62 ที่ 6.9 พันล้านบาท ฝ่ายวิจัยมองดีลนี้ดี ขายได้ราคาสูงและมีผลกระทบกระแสเงินสดที่ลดน้อยลงหลังขายออกไปไม่มาก ยังมีเหลือโรงแรมอีก 11 แห่งสำหรับ Tivoli Chain