นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บมจ.ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น (SUPER) เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ให้กับการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ในโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในเวียดนาม รวม 4 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตรวม 186.72 เมกะวัตต์ โดยได้เริ่ม COD ในเดือน มิ.ย.62 เรียบร้อยแล้ว
ทั้ง 4 โครงการนั้น บริษัท ซุปเปอร์ วินด์ เอนเนอร์ยี จำกัด (SWE) และบริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี กรุ๊ป จำกัด (SUPERE) ได้เข้าซื้อหุ้นในบริษัท Nam Veit Phan Lam Co.,Ltd , Everich Binh Thuan Energy Limited Liability Company (Binh An), Van Giao Solar Power Plant Joint Stock Company และ Van Giao Solar Energy Plant Joint Stock Company
โครงการดังกล่าวมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 20 ปี และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินลงทุน (EIRR) ไม่น้อยกว่า 13% ซึ่งการลงทุนในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมีจำนวนสัญญาการซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ในมือเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสนับสนุนการเพิ่มขึ้นของรายได้
พร้อมกันนั้น ยังส่งผลให้โครงการโรงไฟฟ้ามีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น และเมื่อรวมโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของบริษัทย่อยของ SUPER ในประเทศไทยที่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วจำนวน 768.60 เมกะวัตต์ จะทำให้มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 955.32 เมกะวัตต์
สำหรับการดำเนินธุรกิจในประเทศเวียดนาม SUPER ยังทยอยพัฒนาโครงการต่าง ๆ ตามแผนงาน ทั้งโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีในมือ รวมถึงโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม 350 เมกะวัตต์ที่จะทยอยเริ่มสร้างเฟสแรก คาดว่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/62 เป็นต้นไป พร้อมกันนี้ยังได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนจากรัฐบาลเวียดนามเช่น สิทธิประโยชน์ด้านภาษีและสิทธิประโยชน์ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน
ปัจจุบันความต้องการใช้ไฟฟ้าในเวียดนามเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยถึง 10% ต่อปี และการที่รัฐบาลเวียดนามเร่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะพลังงานจากแสงอาทิตย์ พลังงานลม และชีวมวล จะสนับสนุนให้ความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศเติบโตได้ดี ขณะที่ SUPER เองจะได้ประโยชน์ต่อการสร้างรายได้ และกำไรในอนาคต
"SUPER มีความมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดี ซึ่งการลงทุนในประเทศเวียดนามนับเป็นหนึ่งเป้าหมายของบริษัทฯในการขยายฐานธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนไปต่างประเทศ และจะทยอยสร้างรายได้ให้เห็นในปีนี้ และปีถัดไป ช่วยให้บริษัทมีแหล่งรายได้ในระยะยาว ขณะที่แนวโน้มรายได้คาดว่าจะอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท จากจำนวนกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นตามเป้าหมาย"นายจอมทรัพย์ กล่าว