โบรกเกอร์ต่างแนะนำ "ซื้อ" หุ้นบมจ.สหกลอิควิปเมนท์ (SQ) หลังแนวโน้มเห็นการฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 1/62 ต่อเนื่องมาถึงไตรมาส 2/62 ที่ผลการดำเนินงานสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการทำงานในเหมืองแม่เหมาะ 8 กลับสู่ภาวะปกติ หนุนให้ผลการดำเนินงานฟื้นตัวกลับมาต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทยังมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ใยระดับที่สูงกว่า 3 หมื่นล้านบาท สามารถรองรับรายได้ในอนาคตได้อีก 8 ปี
สำหรับการยกเลิกงานของโครงการเหมืองดีบุกในเมียนมาจะไม่ได้รับผลกระทบของบริษัท และช่วยลดต้นทุนการบริหารโครงการใหมลดลงได้ หนุนต่อกำไรของบริษัท ประกอบกับบริษัทยังมีการเดินหน้าเข้าประมูลงานโครงการใหม่ๆเข้ามาทดแทน โดยเฉพาะงานในอาเซียนที่ยังมีอีกหลายงานออกมา ทำให้บริษัทจะมีงานใหม่ๆเข้ามาทดแทนงานเหมืองดีบุกในเมียนมา และทำให้บริษัชมี Backlog เพิ่มขึ้น
เที่ยววันนี้ราคาหุ้น SQ ปิดที่ 2.74 บาท ลดลง 0.02 บาท (- 0.72%)ตามทิศทาง SET -0.17%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) เคจีไอ ซื้อ 4.00 เอเซีย พลัส ซื้อ 3.24 เมย์แบงก์ ซื้อ 3.20 เอเชีย เวล์ท ซื้อ 3.20 นายสุรชัย ประมวลเจริญกิจ รักษาการหัวหน้าฝ่ายวิจัยบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 3.20 บาท/หุ้น จากแนวโน้มของผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/62 ที่จะยังสามารถมีกำไรต่อเนื่องจากไตรมาส 1/62 ซึ่งมีการปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลการดำเนินงานขาดทุน จากปริมาณขุดดินที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งมาจากโครงการแม่เมาะ 8 เริ่มนำเครื่องลำเลียงเข้ามาใหม่ ซึ่งการปรับตัวดีขึ้นของผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาของปีนี้ ทำให้แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้จะมีการพลิกกลับมามีกำไรได้ราว 220 ล้านบาท จากปีก่อนที่ขาดทุน 285 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทยังมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ที่อยู่ในระดับสูงกว่า 3 หมื่นล้านบาท ทำให้สามารถรองรับการรับรู้รายได้ในอนาคตได้อีก 8 ปีข้างหน้า และยังมีศักยภาพในการเข้าประมูลงานอื่นๆที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะในอาเซียนที่จะมีงานขนาดใหญ่ออกมาต่อเนื่อง เช่น โครงการหงสา เฟส F มูลค่ากว่า 4 พันล้านบาท และโครงการเหมืองถ่านหินในเมียนมาที่บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งสามารถช่วยเข้ามาทดแทนการยกเลิกโครงการเหมืองดีบุกในเมียนมามูลค่ากว่า 3 พันล้านบาทได้ นักวิเคราะห์บล.เคจีไอ แนะนำ "ซื้อ" SQ ราคาเป้าหมาย 4 บาท/หุ้น โดยมองว่าการยกเลิกโครงการเหมืองดีบุกในเมียนมา ส่งผลดีต่อบริษัทในการที่ช่วยลดต้นทุนการบริหารโครงการลดลง หนุนต่อการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานในปีนี้ได้อย่างมีนัยสำคัญ และเป็นการลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนและความล่าช้าที่เกิดขึ้น โดยที่ปี 62 จะเป็นปีที่เห็นการฟื้นตัวกลับมาของผลการดำเนินงานของบริษัทอย่างชัดเจน และพลิกกลับมามีกำไรจากปีก่อนที่มีผลขาดทุน จากการกลับมาปกติของเหมืองแม่เมาะ ซึ่งทำให้ผลงานในไตรมาส 1/62 กลับมากำไร และทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ยังมีการปรับขึ้นค่าจ้างต่อหน่วยมาช่วยหนุนการฟื้นตัวขึ้นอีก อย่างไรก็ตามแม้ว่าการรับงานจากเหมืองดีบุกในเมียนมาจะหายไป แต่บริษัทยังมีโครงการอื่นๆที่มีมูลค่าใกล้เคียงกันที่จะเข้าไปร่วมประมูล และมีโอกาสได้งานสูงราว 2-3 โครงการ ที่อยู่ในอาเซียนที่บริษัทสนใจ ซึ่งจะเข้ามาทดแทนงานที่ยกเลิกไปได้ และช่วยเพิ่ม Backlog ของบริษัทให้เพิ่มขึ้นมากกว่า 3 หมื่นล้านบาทในปัจจุบัน และทำให้บริษัทจะสามารถมี Backlog ที่รองรับรายได้ในอนาคตได้เพิ่มมากขึ้น ส่งผลดีต่อการเติบโตของผลการดำเนินงานในอนาคต นางวชิราลักษณ์ แสงเลิศศิลปชัย รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย เวลท์ แนะนำ "ซื้อ" SQ ราคาเป้าหมาย 3.20 บาท/หุ้น โดยมองว่าบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกงานของเหมืองดีบุกในเมียนมา ซึ่งเกิดความล่าช้าในการในการต่อสัญญาสัมปทานระยะยาวกับทางรัฐบาลเมียนมา แต่การยกเลิกงานดังกล่าวทำให้บริษัทสามารถหางานใหม่เข้ามาทดแทนได้ โดยที่บริษัทยังเข้าไปเสนองานโครงการเหมืองขนาดใหญ่หลายโครงการในภูมิภาคอาเซียนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าและมีเสถียรภาพสูงกว่างานเหมืองดีบุกที่ได้ขอยกเลิกไป อีกทั้งบริษัทยังมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ที่อยู่ในระดับสูงกว่า 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งรองรับการรับรู้รายได้ในช่วง 6-7 ปี และแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 62 ยังเห็นการพลิกกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งจากปีก่อนที่ขาดทุนไปกว่า 200 ล้านบาท โดยเริ่มกลับมามีกำไรในช่วงไตรมาส 1/62 ที่ผ่านมา หลังจากที่การทำงานในเหมืองแม่เมาะ 8 กลับมาสู่ภาวะปกติ หลังจากที่ปีก่อนเกิดปัญหาดินสไลด์ทำให้การทำงานต้องชะงักไป และยังมียังมีการปรับขึ้นค่าจ้างต่อหน่วยของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ที่ทำให้รายได้รวมเพิ่มขึ้น ผลักดันการฟื้นตัวกลับมาของผลการดำเนินงานในปีนี้