ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กแรงซื้อหุ้นค้าปลีก หนุนดาวโจนส์ปิดบวก 57.88 จุด

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 ก.พ.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกได้กระตุ้นให้นักลงทุนส่งแรงซื้อเข้าหนุนหุ้นกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มธุรกิจสร้างบ้าน อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มแบงค์และกลุ่มประกันร่วงลงเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มในตลาดปล่อยกู้จำนอง
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 57.88 จุด หรือ 0.48% แตะระดับ  12,240.01 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดขยับขึ้น 7.83 จุด หรือ 0.59% แตะระดับ 1,339.12 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดดีดตัวขึ้น 15.21 จุด หรือ 0.66% แตะระดับ 2,320.06 จุด
          ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 3.51 พันล้านหุ้น ลดลงจากวันศุกร์ที่ 3.66 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 8 ต่อ 7 
           นายสตีฟ โกลด์แมน นักวิเคราะห์จากบริษัทวีเดน แอนด์ โค กล่าวว่า "เฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันในการประชุมหลายครั้งที่ผ่านมา และมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 18 มี.ค.นี้ ซึ่งการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านมาโดยตลอด และเมื่อคืนนี้หุ้นทั้งสองกลุ่มก็ได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์นี้ด้วย"
          อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวในด้านลบจากตลาดสินเชื่อ โดยในช่วงเช้านั้นตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงและแกว่งตัวผันผวนหลังจากมีข่าวว่า บริษัทอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป อาจต้องตัดบัญชีหนี้สูญเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาหุ้นของบริษัทเอไอจีได้รับผลกระทบจากการตรวจสอบบัญชี ซึ่งบ่งชี้ว่าบริษัทอาจเผชิญกับการขาดทุนด้านการจำนองในตลาดสหรัฐ 
          หนังสือพิมพ์เจอร์นัล วอลล์สตรีทรายงานว่า คณะกรรมการบริหารของบริษัทยาฮู อิงค์ ได้ปฏิเสธข้อเสนอเทคโอเวอร์จากบริษัทไมโครซอฟท์ โดยระบุว่าข้อเสนอของไมโครซอฟท์ยังมีมูลค่าต่ำเกินไป ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวฉุดหุ้นไมโครซอฟท์ร่วงลง 35 เซนต์ ปิดที่ 28.21 ดอลลาร์ แต่หุ้นยาฮูดีดตัวขึ้น 67 เซนต์ หรือ 2.3% ปิดที่ 29.87 ดอลลาร์
          นอกจากนี้ วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า บริษัทโมโตโรลา อิงค์ และบริษัทนอร์เทล เน็ตเวิร์ค กำลังเจรจาเรื่องการควบรวมกิจการ ซึ่งหากดีลนี้เป็นไปอย่างราบรื่น ก็จะทำให้เกิดบริษัทร่วมทุนที่สามารถทำยอดขายได้ถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นโมโตโรลาทะยานขึ้น 2.8% แต่ฉุดหุ้นนอร์เทลร่วงลง 18 เซนต์ ปิดที่ 10.89 ดอลลาร์