นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บมจ.ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น (SUPER) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจสาธารณูปโภคด้านน้ำภายใน 3 ปี (62-64) จะขยับเพิ่มเป็น 20% จากปีนี้คาดมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 5% ของรายได้รวม เป็นไปตามแผนงานการขยายกิจการจำหน่ายน้ำประปาไปยังจังหวัดต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง หลังจากเข้าซื้อกิจการ บริษัท ซุปเปอร์ วอเตอร์ (SUPERW) มูลค่าราว 130 ล้านบาท
ล่าสุด บริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินงานก่อสร้างโรงผลิตน้ำประปาที่ จ.ภูเก็ต กำลังการผลิตราว 20,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งมีสัญญาซื้อขายน้ำประปาให้กับการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) จำนวน 4 สัญญา อายุสัญญา 5 ปี
ขณะที่ปัจจุบันก็มีการจำหน่ายน้ำดิบและน้ำประปาให้กับนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ชลบุรี โดยมีสัญญาซื้อขายน้ำดิบกับ บริษัท อมตะวอเตอร์ อายุสัญญา 20 ปี สิ้นสุด 31 ธ.ค.86, การจำหน่ายน้ำปะปาในพื้นที่ ต.ชัยมงคล อ.เมือง จ.สมุทรสาคร อายุสัญญา 30 ปีสิ้นสุด 5 ก.ค.80 และการจำหน่ายน้ำเพื่ออุตสาหกรรมให้กับนิคมอุตสาหกรรมใน จ.สมุทรสาคร มีสัญญาซื้อขายน้ำ 2 ปี สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.63
สำหรับความคืบหน้าการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้า ซุปเปอร์ เอเนอร์ยี (SUPEREIF) นายจอมทรัพย์ กล่าวว่า ขณะนี้โครงการโรงไฟฟ้าที่กองทุนจะเข้าซื้อมาเป็นสินทรัพย์ได้รับใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องครบถ้วนแล้ว โดยธนาคารกรุงเทพ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และ บลจ.บัวหลวง จะเป็นผู้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป คาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนของการเสนอขายหน่วยลงทุนได้ภายในเดือนก.ค.นี้ เพื่อนำเงินไปชำระหนี้และรองรับการขยายงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงเข้าถือหน่วยลงทุนของกองทุนดังกล่าว
อนึ่ง บริษัท 17 อัญญวีร์ จำกัด (17AYH) และบริษัท เฮลท์ แพลนเน็ท เมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (HPM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SUPER จะเป็นผู้ทำรายการจำหน่ายสินทรัพย์ในโครงการโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ 19 โครงการ ขนาดกำลังการผลิต 118 เมกะวัตต์ ให้กับกองทุนฯ และให้บริษัทฯ ทำธุรกรรมซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนดังกล่าวได้ในสัดส่วน 20-30%
ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้า ขณะนี้โครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในเวียดนามจำนวน 4 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตรวม 186.72 เมกะวัตต์ ได้เริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ให้กับการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเตรียม COD โรงไฟฟ้าขยะที่ จ.พิจิตร กำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ในไตรมาส 4/62 รวมถึงการเซ็นสัญญาขายไฟฟ้าแบบ Private PPA ให้กับบริษัทเอกชน จำนวน 25 เมกะวัตต์ ซึ่งจะส่งผลทำให้ในปีนี้บริษัทจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ COD แล้วรวมเกินกว่า 1,000 เมกะวัตต์ และทำให้รายได้เติบโตไปตามเป้าหมาย 13-15% จากปีก่อน