หุ้น THANI ราคาไหลลง 3.47% มาอยู่ที่ 6.95 บาท ลดลง 0.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 57.33 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.07 น. โดยเปิดตลาดที่ 7.05 บาท ราคาทำระดับสูงสุดที่ 7.10 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 6.90 บาท
เช้านี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) แจ้งว่าตามที่หนังสือพิมพ์บางฉบับในวันนี้ (4 ก.ค.) นำเสนอข่าวเรื่องการ"ซื้อราชธานีลิสซิ่ง ราคาต่ำกว่า 7.20 บาท/หุ้น"นั้น ธนาคารขอปฏิเสธข่าวดังกล่าว โดยข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ด้านบล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ราชธานี ลิสซิ่ง (THANI) ที่ราคาเป้าหมายที่ 8.50 บาท อิง PBV ที่ 3.9x (5Yr Avg. PBV +2SD) จากการปล่อยสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในครึ่งหลังปีนี้ ที่มีการลงทุนของภาครัฐเพิ่ม และหนุนต่อยอดขายรถบรรทุกที่เพิ่มขึ้น และแนวโน้มรายได้อื่นเพิ่มขึ้นจากการดำเนินธุรกิจประกันภัย และประกันชีวิตของ RTN ส่งผลต่อกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น 2561-2563 CAGR 14% โดยมองว่าราคาหุ้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาในช่วง 3 เดือนที่ 23% สะท้อนเศรษฐกิจที่ดีขึ้นภายหลังที่มีความชัดเจนทางการเมือง ในขณะที่บริษัทยังมีโอกาสในการดำเนินธุรกิจอื่นในอนาคตจากการเพิ่มวัตถุประสงค์การดำเนินงาน จึงถือเป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสม
ทั้งนี้ คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/62 จะยังขยายตัวต่อเนื่องที่ 519 ล้านบาท (+32%YoY, +5%QoQ) จากรายได้ NII ที่เพิ่มขึ้น 15%YoY, 6%QoQ ตามสินเชื่อที่ขยายตัว 8%YoY, 5%QoQ และการ Reverse สำรองส่วนเกินเป็นรายได้ที่ 20 ล้านบาท
ส่วนข่าว SCB จะเข้าซื้อ THANI ที่ราคาต่ำกว่า 7.20 บาท/หุ้นนั้น มองว่ามีโอกาสเกิดขึ้นน้อย เนื่องจาก THANI เป็นบริษัทย่อยที่มีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าบริษัทย่อยอื่นของบมจ.ทุนธนชาต (TCAP) ในขณะที่ราคาที่จะเสนอซื้อที่ 7.20 บาท/หุ้น ไม่สูงมากพอ (คิดเป็น 3.4x ของ THANI's BV) จนทำให้ TCAP จะขายออกมา ซึ่งถ้าหาก SCB อยากซื้อจริง ราคาซื้อควรจะสูงกว่านี้มาก และจะเป็นผลบวกต่อราคาหุ้น THANI