นายอนุพนธ์ ศรีอาจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.บีฟิท กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัว ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่มีการแกว่งตัวทั้งบวก-ลบ หลังจากที่ตลาดสหรัฐฯได้มีการรีบาวน์กลับขึ้นมาได้แม้จะไม่มากนัก ส่วนตลาดหุ้นไทยก็น่าจะมีหุ้นในกลุ่มพลังงานที่อาจจะได้รับอานิสงค์ดีจากที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวขึ้นมาอย่างแข็งแกร่ง
นอกจากนี้ ปัจจัยภายในประเทศ วันนี้จะมีการพิจารณาเรื่องการยกเลิกมาตรการสำรอง 30% ซึ่งหากมีการยกเลิกจริงก็จะทำให้เงินทุนต่างประเทศเป็นอิสระมากขึ้น แต่เชื่อว่าคงจะยังไม่มีผลสรุปในวันนี้ นอกจากนี้ยังมีในเรื่องทิศทางของอัตราดอกเบี้ยที่อาจจะปรับตัวลง ตรงนี้ก็จะช่วยลดต้นทุนของผู้ประกอบการได้ และปัจจัยดังกล่าวนี้จะส่งผลดีต่อตลาดฯ
พร้อมให้แนวรับที่ 800-802 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 810,816 จุด แนะ"wait & see"
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(11 ก.พ.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 12,240.01 จุด เพิ่มขึ้น 57.88 จุด(+0.48%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,339.12 จุด เพิ่มขึ้น 7.83 จุด(+0.59%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,320.06 จุด เพิ่มขึ้น 15.21 จุด (+0.66%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 843.88 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 93.59 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.82 ดอลลาร์หรือ 1.98%
- รัฐบาล "สมัคร" วางแผนใช้งบ 1.2-1.5 ล้านล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจในช่วง 4-5 ปี ด้าน "สภาพัฒน์" เตรียมปรับเป้าประมาณการจีดีพี ปี 2551 ใหม่ คาดสูงกว่า 5% หลังรัฐบาลใหม่มี นโยบายกระตุ้น "การลงทุน-การบริโภค" แนะระวังเศรษฐกิจสหรัฐและราคาน้ำมันแพง
- การเก็บรายได้รัฐบาลเดือน ม.ค. 2551 ได้แค่ 9.64 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ 570 ล้านบาท หรือ 0.6% เนื่องจากการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต่ำกว่าประมาณการ 2.37 พันล้านบาท หรือ 9.9%
- "สุรพงษ์" ยันไม่แทรกแซง ธปท.หาข้อสรุปมาตรการกันสำรอง 30% วันนี้ ด้าน คลัง ชี้ ยกเลิกมาตรการ ควบคู่ลดอัตราดอกเบี้ย ยันไม่มีมาตรการเก็บภาษีกำไรออกนอกประเทศ "อัจนา" ระบุข้อมูลพร้อมชี้แจงผลของมาตรการและความเป็นไปได้ ด้าน"บุณยสิทธิ์-ณรงค์ชัย"หนุนรัฐบาลยกเลิก หวังสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ
- ตลาดยอมรับอยู่ระหว่างศึกษามาตรการสกัดหุ้นเก็งกำไรเพิ่ม เผยอาจปัดฝุ่นรายชื่อหุ้น เทิร์นโอเวอร์ลิสต์สูงของ ก.ล.ต.มาใช้ ย้ำมาตรการห้ามเน็ต-มาร์จิน ยังใช้ได้ดี ระบุ ถ้าออกมาตรการใหม่ต้องหารือโบรกเกอร์-ก.ล.ต.ก่อน ขณะเดียวเล็งพบ รมว.คลังยื่นปกขาวพัฒนาตลาดทุน ด้านโบรกเกอร์แนะตลาดแขวนเอสพีหุ้นร่วงแรงแบบไม่มีเหตุผล ชี้เพื่อเปิดโอกาสผู้ลงทุนรับข้อมูลเพิ่มก่อนตัดสินใจ
- จี-7 หวั่นตัวเลขขาดทุนของสถาบันการเงินเกี่ยวข้องกับสินเชื่อซับไพร์มทั่วโลกพุ่ง เป็น 4 แสนล้านดอลลาร์ สูงกว่าภาคการเงินสหรัฐกับเฟดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้เพียง 1.5 แสนล้านดอลลาร์ ด้านซอคเจนดิ้นขายหุ้นให้ส่วนลดต่ำลงมาก หวังเพิ่มทุน 8 พันล้านดอลลาร์ ปรับงบบัญชีแบงก์หลังถูกฉ้อโกงเงินก้อนโตผสมขาดทุนซับไพร์มกว่า 4 พันล้านดอลลาร์
- ทางคณะอนุกรรมการกำกับค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที)ได้ขอเลื่อนการประชุมในวันที่ 13 ก.พ. ซึ่งเดิมจะมีการประกาศค่าเอฟทีรอบใหม่(เดือน ก.พ.-พ.ค.) มีแนวโน้มปรับขึ้น 5-6 สต./หน่วย โดยปัจจัยหนึ่งมี ผลมาจาก รมว.พลังงาน ต้องการให้มีการทบทวนการปรับขึ้นค่าเอฟทีงวดนี้ ว่าจะมีแนวทางใดที่สามารถบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนได้
- "สุธา ชันแสง" รมว.พม.ปลุกผีประชานิยมโครงการบ้านเอื้ออาทร อ้างความต้องการบ้านเอื้ออาทรในอนาคตขยายตัวขออนุมัติสร้างเพิ่มขึ้นได้อีก แฉหนี้ก้อนโตกว่า 60,000 ล้าน เรื่องใหญ่ที่ต้องสะสางก่อน กคช.เข้าสู่ภาวะล้มละลาย พร้อมหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำช่วยลูกค้าถูกแบงก์ปฏิเสธสินเชื่อกว่า 2 แสนรายที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง วอน คตส.ให้ความเป็นธรรมกับพนักงาน-ผู้บริหาร กคช. พร้อมเตรียมตั้งกรรมการกลางแก้ปัญหาแฟลตดินแดง
- การท่าปิดซ่อมรันเวย์ในสนามบินสุวรรณภูมิด้านตะวันออก 50 วัน ตั้งแต่ 18 ก.พ. - 7 เม.ย. หลังพบความเสียหาย ขณะที่“สันติ" ชี้ ใช้ดอนเมืองให้คุ้ม ด้าน ขอ.เตรียมเปิดฟังความทุกฝ่ายก่อนฟันธง ด้าน"ชนะ" ฟุ้งสุวรรณภูมิปี 51 คนล้น ต้องขยาย มี 120 เที่ยวบินพร้อมย้ายกลับคาดสามารถพลิกทำกำไรจากที่ขาดทุนกว่าพันล้าน
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--