TPROP เพิ่มทุน 1.18 พันลบ.เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิม 2:1 ที่ราคา 4 บาท/หุ้น

          บมจ.ไทย พร็อพเพอร์ตี้ (TPROP) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อ 11 ก.พ.51 มีมติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติให้บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนจากทุนจดทะเบียนเดิม 2,353,702,060  บาท ให้เป็นทุนจดทะเบียน 3,530,553,090 บาท โดยให้เพิ่มทุนจดทะเบียนขึ้นอีก 1,176,851,030 บาท ด้วยการออกหุ้นสามัญใหม่ 117,685,103 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท
          ทั้งนี้ ให้เสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ทั้งหมดให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วนการจองซื้อ 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ (ในกรณีที่มีเศษหุ้น ให้ปัดทิ้ง) ในราคาหุ้นละ 4 บาท ซึ่งเป็นราคาเสนอขายที่มีอัตราส่วนลดหุ้นละ 6 บาท โดยให้ผู้ถือหุ้นที่มีรายชื่อปรากฏอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นระหว่างพักการโอนหุ้น ณ วันที่ 26 ก.พ.51 เป็นผู้มีสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญดังกล่าว และกำหนดวันจองซื้อและชำระเงินค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนในระหว่างวันที่ 24-28 มี.ค.51
          วัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุนและการใช้เงินทุนในส่วนที่เพิ่มเพื่อเป็นเงินลงทุนในโครงการใหม่ ๆ ของบริษัท โดยในขณะนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการจัดหาที่ดินและโครงการ ซึ่งการเพิ่มทุนข้างต้น จะเป็นการเตรียมความพร้อมในการจัดหาที่ดินและโครงการ และเป็นวัตถุประสงค์หลักในการเพิ่มทุนในครั้งนี้ และ  เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัท
          อย่างไรก็ตาม ก่อนการเพิ่มทุนครั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทได้มีมติให้ยกเลิกมติต่าง ๆ ดังนั้น 1.การลดทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วของบริษัท จาก2,511,250,000 บาท ให้เหลือ 1,506,750,000 บาท รวมทั้งการลดมูลค่าหุ้นของบริษัทลงจากเดิมมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10  บาท เป็นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 6  บาท
          2.ยกเลิกการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นจากเดิมมูลค่า ที่ตราไว้หุ้นละ 6.- บาท ให้เป็นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยการแตกหุ้นสามัญจำนวน 1 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 6 บาท ให้เป็นหุ้นสามัญจำนวน 6 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท 
          3.ยกเลิกการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 1,506,750,000 บาท เป็น 2,506,750,000  บาท กล่าวคือ ให้เพิ่มทุนจดทะเบียนขึ้นอีก 1,000,000,000  บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่เป็นจำนวน 1,000,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1บาท และยกเลิกการจัดสรรและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวทั้งจำนวน
          จากนั้นให้บริษัทลดทุนจดทะเบียนของบริษัท จาก 2,511,250,000 บาท ให้เหลือ 2,353,702,060  บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 235,370,206 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท โดยวิธีการตัดหุ้นสามัญจดทะเบียนที่ยังมิได้นำออกจำหน่ายจำนวน 15,754,794 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10  บาท รวม 157,547,940 บาทออก