ดัชนีหุ้นไทยท้ายภาคบ่ายไหลลงไปกว่า 20 จุด ตามแรงขายนำออกมาในหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าหลังจากที่หุ้นกลุ่มดังกล่าวปรับขึ้นมาแรงก่อนหน้านี้ นำโดยหุ้นบมจ.บีซีพีจี (BCPG) ที่นำดิ่งกว่า 8%, หุ้นบมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) และหุ้นบมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ฉุดให้มีแรงขายหุ้นขนาดใหญ๋ในกลุ่มอื่น ๆ ตามออกมากดดันภาพรวมการลงทุน ขณะที่สำนักวิจัยหลายหน่วยงานต่างออกมาปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ในปีนี้ ทำให้ Sentiment ตลาดไม่สดใสมากนัก
เมื่อเวลา 15.16 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,728.01 จุด ลดลง 10.50 จุด (-0.60%)
เมื่อเวลา 15.39 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,727.11 จุด ลดลง 11.40 จุด (-0.66%)
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.10 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,717.93 จุด ลดลง 20.58 จุด (-1.18%)
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวลงกว่า 10 จุด อ่อนแอกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่บางตลาดปรับตัวลงแต่ไม่มาก คาดว่าจะเป็นการปรับฐานหลังจากที่ได้ปรับตัวขึ้นไปมากแล้ว โดยมีความเป็นไปได้ที่กองทุนจะขายออกมา หลังจากก่อนหน้านี้กองทุนก็เป็นฝ่ายขายมาตลอด อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ก็ได้แนะนำให้นักลงทุนระวังแรงขายทำกำไรอยู่แล้วเพราะสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อหลังจากที่ตลาดฯปรับตัวขึ้นไปมาก
ในแง่ของปัจจัยทั้งในและนอกประเทศตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีข่าวลบใหม่อะไรออกมา พร้อมให้แนวรับ 1,720-1,710 จุด ส่วนแนวต้าน 1,730-1,735 จุด