นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้อาจเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์ขึ้นได้หลังเมื่อวานนี้ปรับตัวลงไปแรง แต่เมื่อปรับขึ้นก็มาก็มีโอกาสที่จะถูกขายทำกำไรได้เช่นเดียวกัน เพราะหุ้นหลายตัวราคาได้ปรับตัวขึ้นไปมากแล้ว อย่างหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ราคาขึ้นไปมากเกือบทุกตัว อีกทั้งตลาดฯก็ขาดปัจจัยใหม่เข้ามา
นอกจากนี้ ในสัปดาห์หน้าให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ โดยเริ่มที่ TISCO คาดว่าจะประกาศในวันที่ 11 ก.ค.นี้ และในวันที่ 10-11 ก.ค.ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีแถลงประจำปีต่อสภาคองเกรส ก็ให้ดูว่าจะมีการส่งสัญญาณอย่างไรเกี่ยวกับการปรับอัตราดอกเบี้ย เพราะจะมีการประชุมเฟดในช่วงสิ้นเดือนก.ค.นี้ รวมทั้งให้ติดตามการตั้งรัฐบาลของไทยด้วย
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่แกว่งไซด์เวย์อิงแดนลบเล็กน้อย ในช่วงรอปัจจัยใหม่ ส่วนทิศทางค่าเงินบาทก็ทรงตัว แต่ Fund Flow ดูจะชะลอตัว ด้านกองทุนในประเทศก็ขายออกอย่างต่อเนื่อง
พร้อมให้แนวรับ 1,710 จุด ส่วนแนวต้าน 1,735 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดน้ำมันดิบไนเม็กซ์วานนี้ (4 ก.ค.) หยุดทำการเนื่องในวันชาติสหรัฐ
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 1.16 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.51 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 10.24 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 9.95 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 2.27 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 4.68 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.12 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 7.29 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (4 ก.ค.62) 1,724.37 จุด ลดลง 14.14 จุด (-0.81%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,615.60 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2562
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (4 ก.ค.62) ที่ 6.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.68 อ่อนค่าเล็กน้อยจากวานนี้ นลท.รอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯคืนนี้
- "แบงก์กรุงศรี" ประเมิน "เงินบาท" ส่อหลุด 30 บาทต่อดอลลาร์ หาก "เฟด" ลดดอกเบี้ยในการประชุมก.ค.นี้ พร้อมปรับประมาณการค่าเงินปีนี้เหลือ 30.5 บาทต่อดอลลาร์ จากเดิม 31 บาทต่อดอลลาร์ ด้าน "กรุงไทย" ฟันธง "เฟด" ลดดอกเบี้ย ดูดเงินเข้าไทยปีนี้แตะ 2 แสนล้าน คาดต้นปีหน้าอาจเห็นเงินบาทแกว่งแถว 29 บาทต่อดอลลาร์
- "ตลาดหลักทรัพย์" หนุนบริษัทจดทะเบียนลงทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้น แนะรัฐฉวยจังหวะเงินบาทแข็งค่า เร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพราะต้นทุนนำเข้าถูกลง ชี้นักลงทุนควรวิเคราะห์หุ้นที่ได้รับผลบวก-ผลลบ จากเงินบาทแข็งค่าแบบรายตัว
- "คลัง" ถกพาณิชย์ มั่นใจส่งออกทั้งปีไม่แย่ถึงขั้นติดลบ พร้อมเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเสนอรัฐบาลใหม่พิจารณา
- หอการค้าฯ เผยการเมือง-เศรษฐกิจโลกชะลอฉุดดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค มิ.ย.ร่วงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และต่ำสุดรอบ 21 เดือน ด้าน สสว.แจงเอสเอ็มอีกำไรวูบ เชี่อมั่นต่อการดำเนินธุรกิจหดตัวลง ระมัดระวังการใช้จ่าย
- สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) หั่นกำไรบจ.ปีนี้เหลือโต 7.88% จาก 9.6% หลังงบไตรมาส 1 ต่ำกว่าคาด หวั่นดัชนีครึ่งปีหลังผันผวนแรง กรอบ 1,641-1,794 จุด เชื่อเงินนอกไหลเข้าหนุนดัชนีฯต่อ แนะ 5 หุ้นเด่นน่าลงทุน ADVANC, AMATA, CPALL, CPF, STEC ด้านกรุงไทยปรับลดจีดีพีปีนี้ลง
*หุ้นเด่นวันนี้
- CPF (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า IAA Consensus 34 บาท ราคาหมูและราคาไก่ในประเทศปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 36 เดือน และ 21 เดือนในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่มอง Cycle ขาขึ้นรอบนี้จะยาวนานกว่าในอดีต เนื่องจากได้ผลบวกจากการแพร่ระบาดของโรคอะหิวาต์แอฟริกาในจีน ซึ่งจะส่งผลบวกต่อผลกำไรกลุ่มธุรกิจเกษตรใน Q2/62 และจะโตต่อเนื่องใน Q3/62 เนื่องจากเป็น high season ของธุรกิจ โดยยังเลือก CPF เป็น Top pick ของกลุ่ม
- EA (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 62 บาท คาดกำไรปกติ Q2/62 ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 1,355 ล้านบาท +20% Q-Q, +36% Y-Y จากโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่รับรู้เต็มไตรมาสและโรงโซลาร์ที่ผลิตไฟฟ้าได้มากกว่าปกติเพราะแดดแรงมากในไตรมาสที่ผ่านมา โดย EA เตรียมแถลงความร่วมมือกับพันธมิตร CPALL, ROBINS, ปั๊มคาลเท็กซ์, Bridgestone ACT ในการติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้า EA Anywhere ซึ่งทำให้เป้า 1,000 สถานีภายในสิ้นปีนี้เป็นเรื่องง่าย (ปัจจุบัน 400-500 สถานี) รูปแบบรายได้จะเป็นการแบ่งส่วนแบ่งรายได้ โดย EA ไม่ต้องเสียค่าเช่า win-win ทั้ง 2 ฝ่าย