นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ เปิดเผยว่า บริษัทออกกองทุนเปิด วรรณ ดีไลท์ (ONE-DELIGHT) เสนอขายระหว่างวันที่ 8-18 ก.ค.นี้ โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ สัดส่วนการลงทุนอยู่ที่ประมาณ 80% และ อีกประมาณ 20% จะลงทุนในกองทุนเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ หรือกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) เนื่องจากมองว่าการกระจายการลงทุนในกองทุน REIT จะได้รับผลตอบแทนส่วนเพิ่มที่น่าสนใจ ขณะที่ยังมีความผันผวนน้อยกว่าการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้
กองทุน ONE-DELIGHT จะพิจารณาเลือกลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนในประเทศ ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ A- ขึ้นไป ตั๋วแลกเงินภาคเอกชนในประเทศที่ผู้ออกตราสารมีอันดับความน่าเชื่อถือที่สามารถลงทุนได้ และพันธบัตรรัฐบาลไทยเป็นหลัก โดยมี Duration เฉลี่ยประมาณ 1 ปี สำหรับกองทุนดังกล่าวเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศ และสามารถถือลงทุนได้ตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป
ทั้งนี้ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของตลาดโลกในช่วงครึ่งหลังปีนี้ มีแนวโน้มปรับตัวลดลง นำโดยธนาคารกลางทั่วโลกโดยเฉพาะของประเทศเศรษฐกิจหลัก อาทิ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งส่งผลให้ธนาคารกลางของประเทศอื่นมีแนวโน้มพิจารณาอัตราดอกเบี้ยลงเช่นกัน เพื่อรักษาส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยในประเทศและต่างประเทศไม่ให้มีความแตกต่างกันมากนัก สำหรับธนาคารกลางแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็คาดว่ามีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงภายในปีนี้เช่นกัน
"ที่ผ่านมาเฟดเริ่มส่งสัญญาณพร้อมใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายอย่างเหมาะสมเพื่อรักษาอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยคาดการณ์ว่า เฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างช้าในเดือน ก.ย.นี้ ขณะที่คาดการณ์ว่า อีซีบี จะส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเช่นกันอีก จากระดับติดลบในปัจจุบัน อีกทั้งพร้อมใช้มาตรการ QE ควบคู่ด้วย ทั้งนี้ หากมองจากปัจจัยเรื่องอัตราดอกเบี้ย ผลที่เกิดจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะทำให้การลงทุนในตราสารหนี้เพียงอย่างเดียวอาจได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง"นายพจน์ กล่าว
นายพจน์ กล่าวว่า ผู้ลงทุนที่มีความสนใจในการลงทุนกองทุนตราสารหนี้ ควรปรับพอร์ตการลงทุนและเลือกหาสินทรัพย์อื่น เพื่อชดเชยผลกระทบบางส่วนที่เกิดขึ้นจากปัจจัยดังกล่าว โดยบริษัทวิเคราะห์ว่าการลงทุนใน REIT มีอัตราผลตอบแทนยังคงน่าสนใจและยังคงอยู่ในระดับสูงตลอด 5 ปีที่ผ่านมา โดยหากพิจารณาอัตราผลตอบแทนของ REIT เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5% เมื่อเทียบกับผลตอบแทนของเงินปันผลจากการลงทุนในหุ้น ผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ และ เงินฝาก เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3% พันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ที่ประมาณ 2.5% เงินฝากอยู่ที่ประมาณ 0.75% ตามลำดับ