AEC มอง SET สัปดาห์นี้ไซด์เวย์อัพ ในกรอบ 1,720-1,750 จุด รับ Sentiment บวกตปท.แม้ปัจจัยในประเทศกดดัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 9, 2019 12:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บล.เออีซี (AEC) ประเมินทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ (8-12 ก.ค.) มีแนวโน้มเคลื่อนไหวแบบ Sideway Up ในกรอบ 1,720-1,750 จุด รับ Sentiment บวกต่างประเทศ จากสภาพคล่องในตลาดเงินที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ธนาคารกลางจีน และธนาคารญี่ปุ่นตั้งเป้าใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย ประกอบในสัปดาห์นี้หากรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนมิ.ย.ออกมา รวมถึงถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด มีมุมมองลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะทำให้โอกาสเพิ่มขึ้นที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้มากกว่า 2 ครั้ง

อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยในประเทศกดดัน จากภาวะเศรษฐกิจในประเทศ ที่แสดงสัญญาณชะลอตัวลง โดยเฉพาะภาคการส่งออกที่รับผลกระทบจากสงครามการค้า และการใช้จ่ายภาครัฐ ที่เผชิญกับความล้าช้าของงบประมาณปี 2563 ทำให้คาดปัจจัยดังกล่าว จะเป็นปัจจัยที่กดดันกำไรสุทธิ/หุ้น (EPS) ของ SET Index ทั้งนี้ ในช่วงสั้นนักลงทุนจะให้ความสนใจกับการประกาศงบการเงินของหุ้นกลุ่มธนาคารที่จะทยอยประกาศงบการเงิน เพื่อเป็น Leading Indicator สำหรับการคาดการณ์แนวโน้มกำไรของหุ้นในกลุ่ม Real Sector ที่จะประกาศต่อไป

ดังนั้น ภายใต้ภาวะผันผวนของตลาดจึงแนะนำ หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น โดยเฉพาะหุ้นที่นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ที่ได้ประโยชน์ จากต้นทุนสินค้าถูกลง ได้แก่ บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) หรือ SYNEX และบมจ.หาญ เอ็นจิเนียริ่ง โซลูชั่นส์ (HARN) และกลุ่ม Defensive Stock ได้แก่ บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) นอกจากนี้ ยังมองหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผล และมีผลเชิงบวกกับกำไรช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ที่มีแนวโน้มโตดี โดยแนะนำ บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง (ASK)

ขณะเดียวกัน ฝ่ายวิจัย ยังมีมุมมองต่อหุ้น กลุ่มเทรดดิ้ง ที่คาดว่าจะมีการฟื้นตัวจากผลประกอบการไตรมาส 2/62 ได้แก่ หุ้นกลุ่มเรือเทกอง ที่คาดผลประกอบการช่วงไตรมาส 2/62 จะฟื้นตัวจากช่วงไตรมาส 1/62 ลัง BDIY Index ในช่วงไตรมาส 2/62 ฟื้นตัวกว่า 24.7% เทียบกับช่วงไตรมาส 1/62 ซึ่งสูงกว่าการปรับขึ้นของต้นทุนราคาน้ำมัน โดย WTI CRUDE FUTURE ช่วงไตรมาส 2/62 เพิ่มขึ้นเพียง 6.5% เทียบกับช่วงไตรมาส 1/62 โดยมองหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ บมจ.พรีเชียส ชิพปิ้ง (PSL)

พร้อมทั้งแนะนำจับตา หุ้นกลุ่มธนาคาร โดยมองว่า เป็นกลุ่มที่ราคาน่าดึงดูด จากปัจจุบันซื้อขายที่ P/BV ต่ำเพียง 1.04x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังช่วง 3 ปีที่ 1.19x อีกทั้งหลังมีการรายงานแบบ ธ.พ.1.1จึงมองว่าหุ้นในกลุ่มธนาคารที่มีอัตราการเติบโตของเงินให้สินเชื่อโดดเด่น ได้แก่ ธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) และ ธนาคารกรุงไทย (KTB)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ