นายปฏิภาณ สุคนธมาน ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีขั้นปลาย บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกลับมาเพิ่มยอดส่งออกเม็ดพลาสติกไปยังตลาดจีนเป็น 25% ของกำลังการผลิตทั้งหมด จากที่ผ่านมาได้ปรับลดการส่งออกตลาดจีนเหลือราว 20% เนื่องจากจีนมีความต้องการใช้เม็ดพลาสติกเพิ่มขึ้น หลังจากไม่สามารถซื้อจากสหรัฐได้ ทำให้ราคาเม็ดพลาสติก HDPE เพิ่มขึ้นประมาณ 30-40 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากเดิมราคาอยู่ที่ประมาณ 1,020 เหรียญสหรัฐ/ตัน
อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามผลกระทบจากปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนต่อเนื่องว่าจะยังส่งผลกระทบต่อตลาดเม็ดพลาสติกในช่วงครึ่งหลังของปีนี้อย่างไร แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นในขณะนี้คือสหรัฐหันไปส่งออกยังตลาดเวียดนามมากขึ้น ทำให้ยอดส่งออกของบริษัทไปเวียดนามลดลง ขณะที่ราคาเม็ดพลาสติกในตลาดจีนดีขึ้นทำให้บริษัทหันส่งออกไปจีนมากขึ้นด้วย
สำหรับความคืบหน้าการจัดตั้งโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลนั้น คาดว่าจะนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในเดือนก.ค. เพื่อพิจารณาอนุมัติการร่วมลงทุนทุนกับบริษัท แอลพลา กรุ๊ป จำกัด (ALPLA) จากยุโรป เพื่อร่วมก่อตั้งโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิล ที่ได้มาตรฐานยุโรปแห่งแรกในไทย ขนาด 5 หมื่นตัน/ปี แบ่งเป็น เม็ดพลาสติกชนิดหมุนเวียนคุณภาพสูง ชนิด rPET จำนวน 3.5 หมื่นตัน/ปี และชนิด rHDPE จำนวน 1.5 หมื่นตัน/ปี โดยหากคณะกรรมการเห็นชอบแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปีจึงจะแล้วเสร็จ มีเป้าหมายจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะลูกค้าบริษัทขนาดใหญ่ในไทยสามารถนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์บรรจุอาหารได้ด้วย ซึ่งนับเป็นการจัดการปัญหาขยะพลาสติกให้สามารถนำกลับมาเพิ่มมูลค่าสินค้าได้มากขึ้น
ส่วนแผนขยายโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลในอนาคตนั้น ยังอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบที่เหมาะสม ซึ่งขณะนี้มีหลายรูปแบบ เช่น การไปจัดตั้งโรงงานแบบกระจายไปยังหัวเมืองต่าง ๆ ที่มีปริมาณขยะจำนวนมาก ,การขยายจากส่วนกลาง ซึ่งเป็นการขยายการลงทุนในพื้นที่เดิม และการเปิดโอกาสให้ผู้สนใจนำโมเดลของบริษัทไปดำเนินการ แล้วส่งเม็ดพลาสติกที่ผลิตได้กลับมาขายให้กับบริษัท