นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยในงานเสวนา "Libra คืออะไร? มาทำไม? มาแทนใคร?" ว่า ตลท.มีแนวคิดที่จะทดลองใช้ Stable Coin หรือคริปโทเคอร์เรนซี่ที่มีสินทรัพย์อ้างอิง เพื่อเชื่อมโยงการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาด CLMV เพื่อลดระยะเวลาการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ จากปัจจุบันที่มีระยะเวลาการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ดำเนินการใน 2 วันทำการ (T+2) และเพื่อต่อยอดการทำผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของตลาดทุน
"ปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ฯ มีหน้าที่ทำการซื้อขายหลักทรัพย์แค่ในประเทศไทยเท่านั้น และนำบริษัทเข้ามาจดทะเบียน ซึ่งทำไมเราต้องจำกัดแค่บริษัทจดทะเบียนในไทยต้องอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ไทย เรากำลังคิดว่าจะทำอย่างไรให้การซื้อขาย การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯสามารถมีสินทรัพย์ที่หลากหลายมากขึ้น มีสินทรัพย์ที่กระจาย Geographic Location ได้มากขึ้น โจทย์พวกนี้เรามองว่าเทคโนโลยีจะเข้ามาช่วยได้
ปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ได้ดำเนินการแล้ว เช่น การเปิดซื้อขายหุ้นเวียดนามผ่านกองทุน ETF พบว่ามีวอลุ่มการซื้อขายเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว และในอนาคตตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเอาโปรดักส์ต่าง ๆ จากกลุ่ม CLMV เข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นไทย รวมถึงเอาโปรดักส์หุ้นไทยไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในต่างประเทศได้เช่นกัน ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นการเชื่อมต่อกับตลาดทุนในภูมิภาค โดยเป็นการเชื่อมต่อในรูปแบบดิจิทัล"นายภากร กล่าว
นายภากร กล่าวอีกว่า ตลท.ยังอยู่ระหว่างศึกษาพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มระดับโลก อย่างเช่น Libra ของ Facebook โดยจะเริ่มใช้ในประเทศไทยก่อน และหลังจากนั้นก็จะขยายไปต่างประเทศ อย่างไรก็ตามขณะนี้ก็ศึกษา business case อยู่ และไปพิจารณาว่าภาครัฐจะเข้ามาควบคุมดูแลอย่างไร รวมถึงเจรจากับหน่วยงานกำกับดูแลอื่น ๆ ด้วย