ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดพุ่ง 13.34 จุด รับแรงหนุนใน-นอกปท.,พรุ่งนี้ลุ้นแนวต้านสำคัญ 820 จุด

          ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 817.49 จุด เพิ่มขึ้น 13.34 จุด(+1.66%) มูลค่าการซื้อขาย 25,676.85 ล้านบาท
          การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดเทรดช่วงเช้าบวกกว่า 2% ส่วนช่วงบ่ายดัชนีฯแกว่งตัวในทิศทางที่อ่อนลง แต่ยังยืนบวกได้ดี โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 820.54 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 807.84 จุด
          ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 258 หลักทรัพย์ ลดลง 79 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 106 หลักทรัพย์
          น.ส.อาภาพร แสวงพรรค ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้พุ่งขึ้น โดยรับแรงหนุนจากตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น อีกทั้งยังได้แรงหนุนจากปัจจัยภายในประเทศในเรื่องการพิจารณามาตรการสำรอง 30% และนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ คาดหวังว่าจะทำให้อุปสงค์ภายในประเทศมีการฟื้นตัวขึ้น ซึ่งส่งผลบวกต่อหุ้นในกลุ่มแบงก์ และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ปรับตัวขึ้นและมีการเทรดคึกคักในวันนี้ 
          เนื่องจากหากอุปสงค์มีการฟื้นตัวขึ้นก็จะทำให้กลุ่มแบงก์ได้ผลดีสามารถปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น ส่วนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ก็จะได้รับผลดีเช่นกันทำให้ยอดขายดีขึ้น หลังจากที่ชะลอตัวมา 2 ปีแล้ว
          แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องรอดูต่อไปว่าปัจจัยภายนอกจะปะทุหรือรุนแรงขึ้นมาอีกเปล่า เพราะมีประเด็นที่ว่า จี7 มีการประชุมกันในส่วนของรัฐมนตรีคลังก็มองว่าสถาบันการเงินขนาดใหญ่อาจจะต้องมีการตั้งสำรองการด้อยค่าอีกหรือไม่ คาดว่าจะสรุปผลประมาณ 2 สัปดาห์ข้างหน้า เพราะขณะนี้กำลังตรวจสอบฐานะการเงินของสถาบันการเงินขนาดใหญ่ของกลุ่มจี7 อันนี้เป็นปัจจัยเสี่ยงและน่าเป็นห่วง ที่ไม่อาจจะละเลยได้ เพราะฉะนั้นตลาดฯควรจะเป็นลักษณะของการเล่นรอบบ้าง โดยอาจจะมีการ take profit บ้าง 
          สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(13 ก.พ.)น.ส.อาภาพร กล่าวว่า ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีเหตุอะไรที่เป็นลบมาก ๆ ตลาดฯก็มีโอกาสที่จะขึ้นไปทดสอบที่ 830 บวก/ลบ ได้เพราะภาพภายในรัฐบาลยังอัดฉีดข่าวที่เป็นภาพสวยงามอยู่ ซึ่งพรุ่งนี้สำคัญถ้าดัชนีฯไม่สามารถทะลุ 820 จุดขึ้นไปหรือทำท่าว่าจะติดลบ ตลาดฯก็อาจจะปรับตัวลงมาที่แนวรับ 780 จุดได้ โดยมีแนวทางผ่านที่ระดับ 800 จุด
          ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ 
          PTT   มูลค่าการซื้อขาย 2,316.54 ล้านบาท ปิดที่ 324.00 บาท เพิ่มขึ้น  8.00 บาท
          SCB   มูลค่าการซื้อขาย 1,767.60 ล้านบาท ปิดที่  89.50 บาท เพิ่มขึ้น  3.00 บาท
          KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,708.15 ล้านบาท ปิดที่  90.00 บาท เพิ่มขึ้น  3.50 บาท
          PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 1,216.94 ล้านบาท ปิดที่  38.50 บาท เพิ่มขึ้น  0.75 บาท
          BBL   มูลค่าการซื้อขาย 1,196.71 ล้านบาท ปิดที่ 124.00 บาท เพิ่มขึ้น  2.00 บาท