โบรกเกอร์ ส่วนใหญ่แนะนำ"ซื้อ" หุ้นบมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) พร้อมปรับเพิ่มราคาเป้าหมายหลังจากกำไรไตรมาส 2/62 ออกมาดีเกินคาด โดยเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อน เป็นผลจาการแข่งขันลดลง และ ARPU ที่ฟื้นตัวเร็วและแรงกว่าคาด เป็นผลของการถอน unlimited package ออกจากตลาดลูกค้าระบบเติมเงิน(Prepaid) ในช่วงกลางไตรมาส 2 รวมถึงการควบคุมต้นทุนได้ดี ทำให้ปรับประมาณการกำไรปกติในปี 62 มาที่ 6.3 พันล้านบาท เติบโตกว่า 100% จากปีก่อน
นอกจากนี้ DTAC ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 1.26 บาท/หุ้น มากกว่าที่คาดไว้เท่าตัว หรือคิดเป็น 96% ของกำไรต่อหุ้น (EPS) และแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังปี 62 จะดีกว่าครึ่งปีแรก
ช่วงบ่ายราคาหุ้น DTAC อยู่ที่ 59 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.42% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย เพิ่มขึ้น 0.75%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) กสิกรไทย ซื้อ 62.49 (เดิม 58.35) กรุงศรี ซื้อ(เดิม ถือ) 62.00 (เดิม 55.00) ฟิลลิป (ประเทศไทย) ทยอยซื้อ 61.00 (เดิม 57.00) หยวนต้า Trading 60.00 (เดิม 50.00) เคทีบี (ประเทศไทย) ถือ (เดิม ขาย) 52.00 (เดิม 37.00 ) ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบีฯ ถือ 55.20
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า DTAC รายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 2/62 ที่ 1.7 พันล้านบาท เติบโต 847% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 20% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากรายได้เติบโตทั้ง Prepaid และ ลูกค้าระบบเหมาจ่ายรายเดือน (Postpaid) รวมทั้งสามารถควบคุมต้นทุนได้ดี และการแข่งขันที่ลดลง
นอกจากนี้ยังมีการจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีแรกที่ 1.26 บาท/หุ้น คิดเป็น 96% ของกำไรต่อหุ้น โดยคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Divended Yield) 4.6%
ทั้งนี้ คาดว่ากำไรปกติในปี 62 ของ DTAC อยู่ที่ 6.3 พันล้านบาท เติบโต 190% จากปีก่อน และเพิ่มเป็น 6.6 พันล้านบาทในปี 63 พร้อมทั้งปรับขึ้นราคาพื้นฐานเป็น 62 บาท และเปลี่ยนคำแนะนำเป็น"ซื้อ" จากเดิม "ถือ"
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า กำไรปกติในไตรมาส 2/62 ของ DTAC อยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท ดีกว่าที่หยวนต้าฯและตลาดคาด 19% และ 31% ตามลำดับ จากรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมาย (ARPU) ที่ฟื้นตัวเร็วและแรงกว่าคาด เป็นผลของการถอน unlimited package ออกจากตลาด prepaid ในช่วงกลางไตรมาส 2
กำไรในช่วงครึ่งแรกของปี 62 คิดเป็น 55% ของประมาณการทั้งปี 62 ขณะที่กำไรช่วงครึ่งปีหลังมีโอกาสเด่นกว่าครึ่งปีแรก ทำให้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติปี 62 ขึ้น 11% เป็น 6.3 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 112% จากปีที่แล้ว และปรับเพิ่มประมาณการปี 63 ขึ้น 29% เป็น 6.4 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1% จากปีนี้ อิงสมมติฐานผู้ประกอบการทุกรายมุ่งเก็บเกี่ยวกำไรก่อนการลงทุน 5G ปลายปี 63
ผลของการปรับประมาณการทำให้ราคาเหมาะสมของ DTAC ณ สิ้นปี 62 ปรับเพิ่มเป็น 60 บาทต่อหุ้น (DCF: WACC 8.8% และ TG 2%) จากมุมมองต่อตลาดรวมที่ดีขึ้น แนะนำ "TRADING" เชิงกลยุทธ์ราคาหุ้นปรับขึ้น 5% หลังประกาศงบไตรมาส 2/62 แนะนำทยอยสะสมเมื่ออ่อนตัว ความเสี่ยงอยู่ที่การประมูลคลื่น 5G ที่เร็วกว่าความจำเป็นและการแข่งขันกลับมารุนแรงอีกครั้ง
บทวิเคราะห์บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) ระบุว่า DTAC ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 2/62 ที่ 1.7 พันล้านบาท เติบโตเด่น 845.2% จากงวดปีก่อน และ 20.3% จากไตรมาสก่อน ทั้งนี้การเติบโตเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน เพราะได้แรงบวกทั้งจากธุรกิจให้บริการโทรศัพท์ที่ดูดีขึ้นทั้งในแง่ของ ARPU เพิ่มขึ้นจาก 242 บาท/เลขหมาย/เดือน ในไตรมาส 1/62 เป็น 253 บาท/เลขหมาย/เดือน และจำนวนผู้ใช้บริการใหม่สุทธิ (Net adds) ที่ลดลง 9.4 หมื่นเลขหมาย ลดลงน้อยสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 1/59
โดยมีฐานลูกค้ารวมสิ้นสุดไตรมาส 2/62 ที่ 20.632 ล้านเลขหมาย ผลักดันรายได้จากการให้บริการหลัก (ไม่รวม IC) โต 1.6% จากไตรมาสก่อน บวกกับธุรกิจขายโทรศัพท์ที่เริ่มให้ส่วนลดอุดหนุนค่าเครื่องลง ส่งผลให้ Gross Margin ติดลบลดลงจากไตรมาส 1/62 ที่ -22.6% มาอยู่ที่ -19.7% ขณะที่การควบคุมค่าใช้จ่ายยังทำได้ดี สะท้อนจาก SG&A/Total revenue ลดลงจากไตรมาส 1/62 ที่ 19.0% มาอยู่ที่ 17.1%
ทั้งนี้ ปรับประมาณการกำไรและราคาพื้นฐานขึ้น แต่ยังคงคำแนะนำ "ทยอยซื้อ" เพื่อสะท้อนผลดำเนินงานดีกว่าคาด พร้อมทั้งรวมผลการเข้ารับจัดสรรคลื่น 700 เมกะเฮิร์ตซ์ (MHz) โดยทางฝ่ายประเมินกำไรสุทธิปี 62 ของ DTAC ที่ 6.2 พันล้านบาท ดีขึ้นจากเดิมที่คาด 5.31 พันล้านบาท ส่วนราคาพื้นฐานปี 62 ปรับเพิ่มเป็น 61 บาท จากเดิม 57 บาท