นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาต (TBANK) เปิดเผยว่า กรณีที่เมื่อวันศุกร์ที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางสหภาพแรงงานธนาคารธนชาตได้ยื่นหนังสือถึง นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เพื่อให้กระทรวงการคลัง ช่วยพิจารณาคุ้มครองผลประโยชน์ของพนักงาน หากมีการรวมกิจการระหว่างธนาคารธนชาต และธนาคารทหารไทย (TMB) หรือทีเอ็มบี โดยสหภาพฯ มีความกังวลต่อสถานภาพการจ้างงานของพนักงานนั้น
ธนาคารไม่มีนโยบายปลดพนักงานใด ๆ ทั้งสิ้น โดยขณะนี้ธนาคารธนชาตและทีเอ็มบีอยู่ระหว่างพิจารณาและหารือกันถึงโอกาสการรวมกิจการ แต่หนึ่งในหลักการสำคัญที่เห็นพ้องตกลงร่วมกันคือ หากมีการรวมกิจการกันก็จะต้องดูแลพนักงานทุกคนอย่างเป็นธรรมและทั่วถึง เพื่อให้ได้รับผลกระทบจากการรวมกิจการน้อยที่สุด ทั้งในเรื่องนโยบายสวัสดิการก็จะจัดการให้ดี เท่าเทียมและสอดคล้องเหมาะสมกับพนักงาน
"ปกติธนาคารของเรา พัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว เพื่อเพิ่มทักษะใหม่ ๆ ให้กับพนักงาน พร้อมรองรับการแข่งขันและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งไม่ว่าจะรวมกิจการหรือไม่ พนักงานของเราก็ต้องมีความรู้ความสามารถอยู่ตลอดเวลา และหากมีการรวมกิจการ ก็เป็นประโยชน์ต่อพนักงานที่จะมีโอกาสใหม่ ๆ รองรับการให้บริการลูกค้าเพิ่มขึ้นถึงสิบล้านคน" นายประพันธ์กล่าว
นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการที่เครือข่ายสหภาพแรงงานของธนาคารและสถาบันการเงิน (BFUN) เรียกร้องให้ธนชาต และทีเอ็มบี มีแผนชัดเจนเกี่ยวกับการรวมกิจการดังกล่าว เพื่อให้แน่ใจว่า พนักงานทั้งสองแห่งจะไม่ได้รับผลกระทบนั้น ในอนาคต จะมีการเปิดเผยแผนที่ชัดเจนดังกล่าวแน่นอน หลังการทำ Due Diligence ระหว่างกันเสร็จสมบูรณ์ก่อน หลังจากนั้น จะเสนอแผนให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รับทราบแผนการรวมกิจการ และเปิดเผยต่อสาธารณชนให้ทราบต่อไป