ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,727.58 จุด ลดลง 7.52 จุด (-0.43%) มูลค่าการซื้อขาย 59,267.52 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,735.88 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,723.64 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 510 หลักทรัพย์ ลดลง 1,082 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 420 หลักทรัพย์
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับฐานบ้างตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ติดลบเฉลี่ยราว 0.7-0.8% มากกว่าตลาดบ้านเรา เผชิญแรงขายทำกำไรในช่วงที่ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ขณะเดียวกันก็รอลุ้นผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งประชุมในวันที่ 30-31 ก.ค.นี้ และให้จับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 25 ก.ค.นี้ ซึ่งตลาดฯคาดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่ให้จับตาการส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเศรษฐกิจในยุโรปยังดูอ่อนแอ
ส่วนบ้านเราในวันที่ 25 ก.ค.นี้ก็จะมีการแถลงนโยบายของรัฐบาล ซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และรอลุ้นการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนด้วย ซึ่ง PTTEP จะประกาศงบฯในวันที่ 25 ก.ค.นี้ คาดว่าจะออกมาดี
ทั้งนี้ วันนี้ตลาดบ้านเราได้รับแรงหนุนจากกลุ่มพลังงานหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าได้ฟื้นตัวขึ้น ซึ่งคงมาจากประเด็นความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ทำให้ Sentiment ในส่วนของน้ำมันยังดีอยู่
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (23 ก.ค.) นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่ง Sideway ถึง Sideway up โดยให้แนวรับไว้ที่ 1,720 จุด ส่วนแนวต้าน 1,740-1,750 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,349.43 ล้านบาท ปิดที่ 71.50 บาท ลดลง 1.25 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,130.47 ล้านบาท ปิดที่ 6.60 บาท ลดลง 0.15 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,870.37 ล้านบาท ปิดที่ 216.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,805.94 ล้านบาท ปิดที่ 86.75 บาท ลดลง 1.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,770.50 ล้านบาท ปิดที่ 137.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท