นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) เปิดเผยในที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น BTS ว่า บริษัทได้ขยายโครงข่ายเดินรถไฟฟ้าเพิ่มเป็น 133.4 กม.จำนวน 115 สถานีในปี 64 จากปัจจุบันที่มีระยะทางเดินรถ 48.9 กม.จำนวน 43 สถานี หรือเพิ่มขึ้น 2.7 เท่า จึงคาดว่ายอดผู้โดยสารจะเพิ่มเป็น 2 ล้านเที่ยวคน/วัน จากสิ้นปี 61/62 (สิ้นสุด 31 มี.ค.62) ที่มีจำนวนเฉลี่ย 6.6 แสนเที่ยวคน/วัน
เส้นทางเดินรถที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว 30.4 กม. แบ่งเป็นส่วนต่อขยายสายสีเขียวใต้ (แบริ่ง-เคหะฯ) ระยะทาง 12.6 กม. เปิดให้บริการเต็มรูปแบบวันที่ 6 ธ.ค. 61. และส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-คูคต) ระยะทาง 17.8 กม. คาดเปิดสถานีแรก (สถานีห้าแยกลาดพร้าว) ในวันที่ 9 ส.ค.นี้ และเปิดเดินรถสถานี ม.เกษตรในปลายปีนี้ และจะเปิดครบทั้งเส้นในปี 63
ส่วนรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ระยะทาง 34.5 กม.และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ระยะทาง 30.4 กม. ทั้งสองเส้นทางจะเปิดให้บริการในปี 64 และรถไฟฟ้าสายสีทองระยะที่1 (สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี-สำนักงานเขตคลองสาน) ระยะทาง 1.8 กม. คาดเปิดบริการในเดือน ก.ย.63
"ในกลางปี 64 จะเดินรถจาก 40 กว่ากม.เป็น 133 กม.115 สถานี ผู้โดยสารเราเชื่อว่าจะมีประมาณ 2 ล้านเที่ยวคน/วัน BTS วันนี้มี Market CAP เกิน 150,000 ล้านบาท BTS ครบรอบการเดินรถ 20 ปี แต่ก่อตั้งบริษัท 27 ปี"นายคีรี กล่าว
ประธานกรรมการ BTS กล่าวว่าบริษัทได้ตั้งเป้าหมายที่จะมีกำไรเติบโตไม่น้อยกว่า 25% ในช่วง 5 ปีที่ โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาก็สามารถทำได้ซึ่งในงวดปี 61/62 มีกำไรสุทธิหลังหักภาษีจากรายการที่เกิดขึ้นประจำ เป็น 3,248 ล้านบาท เติบโต 30% จากปีก่อนที่มี 2,508 ล้านบาท ซึ่งเกินเป้าหมาย และเชื่อมั่นว่ากำไรในอีก 3 ปีข้างหน้า(ปี62/63-64/65)จะทำได้ตามเป้าหมาย
นอกจากนี้ นายคีรี กล่าวต่อว่า บริษัทยังมุ่งขยายโครงข่ายรถไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการรถไฟฟ้าอีกหลายสาย ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มที่จะมีทั้งงานโยธา สายสีส้มฝั่งตะวันออก และเดินรถทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก คาดว่าจะเปิดประมูลในปลายปีนี้ในรูปแบบ PPP
รวมทั้ง โครงการรถไฟฟ้ารางเบา LRT สายสีเทา (บางนา-สุวรรณภูมิ) ระยะทาง 18.3 กม. ซึ่งจะมีจุดเชื่อมสถานีบางนาของรถไฟฟ้าสายสีเขียว และโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวตะวันตก (บางหว้า-ตลิ่งชัน) ระยะทาง 7 กม. น่าจะมีประกาศการประมูลเร็วๆนี้
อีกทั้งบริษัทได้เข้าร่วมประมูลโครงสร้างพื้นฐานอื่นด้วย ได้แก่ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน แม้ว่ารัฐบาลจะประกาศชื่อคู่แข่งเป็นผู้ชนะ แต่หากยังไม่ได้เซ็นสัญญา เราก็พร้อมเสมอที่จะเข้าไปดำเนินโครงการนี้ ถ้าบริษัทที่ชนะไม่ทำหรือถอย บีทีเอส คอนซอร์เตียม พร้อมเสมอที่จะเข้าทำงานเพื่อให้โครงการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เดินหน้าต่อไปได้
และบริษัทยังได้ร่วมประมูลโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกที่เป็นโครงการสำคัญของ EEC ซึ่งได้ยื่นประมูลผ่านไป 4 เดือนแล้วคาดว่าใกล้จะประกาศผู้ชนะแล้ว ซึ่งกลุ่มของบริษัทยังมั่นใจและพร้อมเป็นผู้ชนะ เพียงแต่ตอนนี้มีผู้ประท้วงได้ยื่นฟ้องศาลปกครองและอยู่ระหว่าวรอฟังคำตัดสิน
นอกจากนี้ บริ๋ษัทยังเข้าร่วมประมูลงานบริหาร หรือ O&M โครงการมอเตอร์เวย์ 2 เส้นคือมอเตอร์เวย์เส้นทางบางใหญ่-กาญจนบุรี และเส้นทางบางปะอิน-นครราชสีมา
ส่วนการเจรจาขยายสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่จะหมดสัญญาในปี 72 ให้ขยายเวลาอีก 30 ปี โดยให้มีค่าโดยสารเก็บไม่เกิน 65 บาท/เที่ยว นายคีรี กล่าวว่า บริษัทเห็นว่าถ้าทำแล้วค่าโดยสาร 65 บาท/เที่ยวจะมีการเดินทางไกลชึ้นและประชาชนสามารถรับได้
ทั้งนี้ บริษัทยังสามารถหารายได้จากส่วนอื่นที่เข้ามาช่วยรายได้จากค่าโดยสารที่ไม่คิดทำกำไรจากผู้โดยสาร อาทิ รายได้จากสื่อโฆษณาที่บริหารงานภายใต้ บมจ.วีจีไอ โกลบอล มีเดีย (VGI) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ BTS ถ้า VGI โต BTS ก็จะโตด้วย โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจา
นายคีรี กล่าวว่า ในการเจรจาได้ตกลงกรอบผลตอบแทนการลงทุน (IRR) ไม่เกิน 9% ซึ่งมองว่าเป็นกรอบที่สมเหตุสมผล ส่วนเอกชนจะมีต้นทุนการเงินที่ต่ำก็ถือว่าเป็นความสามารถในหาแหล่งเงินได้
"การกำหนดราคาค่าโดยสารไม่เกิน 65 บาทนั้นไม่คิดว่าจะกระทบ BTS เพราะการเจรจาทางภาครัฐก็ต้องเข้าใจว่าเอกชนลงทุนโครงการใหญ่ขนาดนี้เป็นแสนล้านบาท ถ้าทางผ่ายรัฐไม่มองเห็นถึงความมั่นคงของเอกชน โครงการก็จะไม่เกิด ถ้าจะให้เอกชนมาลงทุน เอกชนก็ควรได้ IRR 9% อย่างโครงการที่ผ่านๆมา"นายคีรี กล่าว
ทั้งนี้ BTS เห็นด้วยที่วงกรอบค่าโดยสารที่ผู้โดยสารสามารถจ่ายได้ จะคิดที่ผลตอบแทนสูงด้วยราคาค่าโดยสารสูงก็ไม่มีประโยชน์หากไม่มีผู้โดยสาร
นายคีรี ได้ตอบคำถามจากผู้ถือหุ้น เกี่ยวกับคำให้สัมภาษณ์ของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ที่มีแนวคิดจะปรับราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าเป็น 15 บาทตลอดสายว่า เป็นความคาดหวังของรัฐมนตรีที่จะทำให้กับประชาชน การเมืองเมื่อ 20 ปีก็อยากได้ราคา 15 บาท อย่างไรก็ตามก็ต้องมีวิธีใหม่ที่ไม่ให้เกิดความเสียหาย
"ผมขื่นชมรัฐมนตรีที่ทีความคิดที่จะหาทางลดภาระของประชาชน มีอะไรเราก็มาพูดคุยกันได้"นายคีรี กล่าว
ขณะที่ในที่ประชุมผู้ถือหุ้น BTS วันนี้อนุมัติการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ BTS ครั้งที่ 5 (BTS-W5) จำนวน 1,319,569,451 หน่วยให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) โดยไม่คิดมูลค่า ในอัตราการจัดสรร 10 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ BTS-W5 ทั้งนี้ BTS-W5 มีอายุ 1 ปีนับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ
และอนุมัติแผนการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท แบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate)จำนวนไม่เกิน 4,400 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 1,100 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 4 บาท
นายคีรี กล่าวว่า บริษัทขออนุมัติแนวทางการเพิ่มทุนไว้เพื่อเป็นเครื่องมือที่จะใช้ขยายธุรกิจ โดยบริษัทมีแผนจะนำไปลงทุนในโครงการต่างๆ เพื่อขยายกิจการ รวมถึงเป็นเงินทุนหมุนเวียน ทั้งนี้วาระเพิ่มทุนเป็นราคาเสนอขายที่มีส่วนลดได้ 10% และสามารถดำเนินการภายใน 1 ปี