หุ้น MINT ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่สอง โดยเช้านี้ราคาร่วง 1.84% มาอยู่ที่ 40 บาท ลดลง 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 877.02 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.55 น. โดยเปิดตลาดที่ 40.75 บาท ราคาทำระดับสูงสุดที่ 40.75 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 39.25 บาท
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า แรงขายหนาแน่นในหุ้นบมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ตลอด 2 วันนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากความกังวลว่าทิศทางกำไรสุทธิในไตรมาส 2/62 ที่เตรียมรายงานออกมา อาจต่ำกว่านักวิเคราะห์หลายสำนักประมาณการกันไว้ในระดับสูง และมีโอกาสขึ้นทำจุดสูงสุดของปี เนื่องจากรับรู้กำไรพิเศษครั้งเดียว (one-time gain) จากการขายและเช่ากลับโรงแรม Tivoli จำนวน 3 แห่งในโปรตุเกส เพื่อปรับโครงสร้างทางการเงินให้ดีขึ้น ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยฯอยู่ระหว่างติดตามแนวทางการปรับพอร์ตขายสินทรัพย์ในครั้งนี้ว่าจะส่งผลกระทบอัตราการเติบโตในอนาคตให้มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่
นอกจากนี้ มีปัจจัยเฝ้าระวังคือ ธุรกิจอาหารในไทยของเครือของ MINT จะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศและการท่องเที่ยวที่ชะลอตัว และแม้ว่าตลาดมีความกังวลประเด็นค่าเงินยูโรที่อ่อนค่า แต่ธุรกิจของ MINT โดยรวมมีรายได้และเงินกู้เป็นสกุลเงินยูโร ทำให้มองว่าผลกระทบประเด็นดังกล่าวจึงมีค่อนข้างจำกัด
นายมงคล กล่าวว่า อีกหนึ่งประเด็นที่ตั้งข้อสังเกตคือในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้วราคาหุ้น MINT ปรับตัวขึ้นมาแรง สูงกว่าราคาพื้นฐานที่ฝ่ายวิจัยฯประเมินที่ 41 บาท ทำให้สัปดาห์นี้มีแรงขายทำกำไรออกมาเพื่อลดความเสี่ยง โดยนักลงทุนที่มีหุ้นในพอร์ตอยู่แล้วแนะนำ "ถือ" แต่นักลงทุนที่สนใจรอจังหวะราคาอ่อนตัวมาบริเวณ 38 บาทก่อนตัดสินใจทยอยสะสม
"กำไรในไตรมาส 2 ของ MINT นักวิเคราะห์ประเมินไว้ค่อนข้างสูง อาจเป็นไปได้ว่ากำไรที่รายงานออกมาอาจจะต่ำกว่าตลาดคาด และในเชิงพื้นฐานเรามองว่ามูลค่าหุ้นค่อนข้างมีกรอบจำกัดแล้ว"นายมงคล กล่าว
นักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า จากการสอบถามข้อมูลฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ของ MINT ยังไม่พบประเด็นเชิงลบใหม่ที่ทำให้ต้องปรับประมาณการในปัจจุบันที่ประเมินราคาพื้นฐาน 48 บาท แต่แรงขายที่ค่อนข้างหนาแน่นตลอดทั้ง 2 วัน ทำให้ฝ่ายวิจัยฯตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นสัญญาณที่อาจจะมีประเด็นเชิงลบที่ตลาดฯยังไม่รับรู้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม แผนการปรับโครงสร้างทางการเงินของ MINT จากการขายพอร์ตโรงแรมมองเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากนำไปคืนหนี้เป็นส่วนใหญ่ และการปรับโครงสร้างหนี้จากเงินกู้ระยะสั้นมาเป็นบอร์นระยะยาว ช่วยลดระดับหนี้สินต่อทุนลง
"ยังไม่มั่นใจว่าสาเหตุที่หุ้น MINT มีแรงขายออกมา เกิดจากปัจจัยใด เพราะจากข้อมูลที่ได้รับจากบริษัทไม่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงเชิงลบ แต่ก็กังวลว่าราคาหุ้นลงมาพร้อมแรงขาย อาจจะมีประเด็นอะไรที่ตลาดฯยังไม่รับรู้ก็ได้"นักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าว
บทวิจัยฯ ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า MINT ขายโรงแรม Tivoli 3 แห่งในโปรตุเกสให้ Invesco Real Estate มูลค่ารวมราว 1.09 หมื่นล้านบาท และเช่ากลับผ่าน NHH (MINT ถือ 94%) เพื่อบริหารโรงแรมต่อ รายการนี้จะแล้วเสร็จในไตรมาส 3/62 คาดมีกำไรพิเศษราว 2.2 พันล้านบาท และนำเงินที่ได้ไปลดหนี้ ทำให้ D/E ปรับลดจาก 1.54 เท่าในไตรมาส 1/62 เหลือราว 1.4 เท่า ลดความกังวลด้านงบดุลที่ตึงตัว ส่วนแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/62 คาดเติบโตสวนทางและโดดเด่นที่สุดในกลุ่มจาก High season ของ NHH ส่วนกำไรปกติทั้งปียังคาดโต 17% Y-Y แนะนำ ซื้อ และเป็น Top pick ของกลุ่ม ราคาเป้าหมาย 48 บาท