ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 178.83 จุด ขานรับยอดค้าปลีกแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 14, 2008 06:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดคล้าปลีกเดือนม.ค.ที่เพิ่มขึ้นเกินคาด ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเรื่องตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภค แม้เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญความไม่แน่นนอนอยู่ในขณะนี้ก็ตาม
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 178.83 จุด หรือ 1.45% แตะที่ระดับ 12,552.24 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดพุ่งขึ้น 18.35 จุด หรือ 1.36% แตะระดับ 1,367.21 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดทะยานขึ้น 53.89 จุด หรือ 2.32% แตะระดับ 2,373.93 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 995. ล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.21 พันล้านหุ้น
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดขึ้นทันทีที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดค้าปลีกเดือนม.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 0.3% หลังจากร่วงลงอย่างหนักในเดือนธ.ค. ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวช่วยให้ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีความกังวลว่าราคาน้ำมันที่แพงขึ้น ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ตกต่ำลง และตลาดหุ้นที่ผันผวน อาจทำให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายลง
นายสก็อต ฟูลแมน นักวิเคราะห์จากบริษัทไอเอ อิงแลนเดอร์ แอนด์ โค กล่าวว่า "แม้ตลาดขานรับยอดค้าปลีกที่โตเกินคาด แต่บรรยากาศการซื้อขายได้รับผลกระทบจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ปริมาณสินค้าคงคลังในภาคเอกชนของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนธ.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าสินค้าค้างสต็อคในร้านค้ายังคงมีอีกมากเนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวลง"
"มีข่าวด้านดีและข่าวด้านลบประดังเข้ามาในระหว่างวัน ทำให้ตลาดเคลื่อนตัวผันผวนอยู่ระยะหนึ่ง เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากระมัดระวังการซื้อขายมากขึ้น" นายฟูลแมนกล่าว
นักลงทุนยังคงจับตาความเคลื่อนไหวของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ เจ้าของบริษัทเบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์ อิงค์ ที่เสนอให้ความช่วยเหลือบริษัทประกันหุ้นกู้ที่ประสบปัญหา ซึ่งรวมถึงบริษัทเอ็มบีไอเอ อิงค์ บริษัทแอมแบค ไฟแนนเชียล กรุ๊ป และบริษัทเอฟจีไอซี (ไฟแนนเชียล การันตี อินชัวรันซ์)
"นักลงทุนขานรับมาตรการล่าสุดจากรัฐบาลสหรัฐที่ต้องการช่วยเหลือกลุ่มเจ้าของบ้านที่ไม่สามารถชำระเงินกู้จำนองได้ตามเวลา และตอบรับข่าวที่ว่านายเฮนรี พอลสัน รมว.คลังสหรัฐ เชื่อว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะยังขยายตัวได้ดี พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาว่าจะใช้มาตรการช่วยเหลือเจ้าของบ้านที่ประสบปัญหา" นายฟูลแมนกล่าว
ด้านนายไมเคิล สตรอส นักวิเคราะห์จากคอมมอนฟันด์ คาดการณ์ว่า ตลาดจะยังคงเคลื่อนตัวผันผวนต่อไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากนักลงทุนจะมีปฏิกริยาต่อข้อมูลเศรษฐกิจไปอีกหลายสัปดาห์ โดยเฉพาะข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความเคลื่อนไหวในตลาดที่อยู่อาศัย
"นักลงทุนส่วนใหญ่จะจับตาเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะแถลงมุมมองด้านเศรษฐกิจและตลาดการเงินต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งวุฒิสภา โดยเฉพาะการส่งสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัย ซึ่งเราคาดว่าเบอร์นันเก้จะมุ่งเน้นเรื่องผลกระทบของตลาดที่อาศัยที่จะมีต่อภาคเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ" นายสตรอสกล่าว
ทั้งนี้ หุ้นโคคา-โคลา ปิดร่วงลง 47 เซนต์ แตะระดับ 59.45 ดอลลาร์ แม้บริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4 พุ่งขึ้น 79% เนื่องจากธุรกิจซอฟท์ดริงค์ขยายตัวแข็งแกร่ง
ขณะที่หุ้นแอพพลายด์ มาเทเรียลส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดัคเตอร์รายใหญ่ของสหรัฐ ดีดตัวขึ้น 9% หลังจากบริษัทรายงานยอดสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นเกินคาด ส่วนหุ้นเดียร์ แอนด์ โค ร่วงลง 1.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 85 ดอลลาร์ แม้บริษัทเปิดเผยกำไรไตรมาส 4 เพิ่มขึ้น 54% ก็ตาม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ